Flag Counter

free counters

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

[Trans] ตามติดชีวิตซุปเปอร์สตาร์ฮิปฮอปจากเกาหลี แดเนียล ลี #1




ตามติดชีวิตซุปเปอร์สตาร์ฮิปฮอปจากเกาหลี แดเนียล ลี #1 (The Stalking of Korean Hip Hop Superstar Daniel Lee)

คืนวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2009 ในฮอลล์แสดงดนตรีที่สูงหลายชั้นของนิวยอร์คซึ่งก็คือโรงดนตรี Fillmore ที่ Irving Plaza นั้นขายบัตรหมดเกลี้ยง แถวต่อยาวออกมาตั้งแต่ Irving Place จนเลี้ยวตรงโค้งถนน East 16th และยังยาวต่อไปเรื่อยๆ ผู้คนมาจากทุนหนแห่งทั้งมิชิแกน, โทรอนโต, และโอไฮโอ คนเหล่านี้ไม่ได้มาเพื่อฟังเพลงอินดี้หรือเฮาส์มิวสิคแต่อย่างใด พวกเขามาเพื่อฟังเพลงจาก Epik High กลุ่มฮิปฮอปเกาหลีซึ่งมีสมาชิก 3 คน บอกได้เลยว่าวงนี้เป็นวงฮิปฮอปเกาหลีวงแรกที่ดึงดูดคนฟังเพลงเมนสตรีมในอเมริกาได้มากขนาดนี้

หัวหน้าวงคือชายร่างผอมอายุ 28 ปีนามว่าแดน  ลี ในคืนนั้นเมื่อเขาเต้นบนเวทีผู้ชมก็จะเต้นตามเขาด้วย ลี ผู้มีนามในวงการว่าทาโบลนิสัยซุกซน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ และถูกขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะ ที่เกาหลีเขากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ไปเรียบร้อยแล้ว อัลบั้มของ Epik High 4 อัลบั้มเคยขึ้นแท่นอันดับหนึ่งมาแล้ว และเขายังเขียนหนังสือรวมเรื่องสั้นทั้งในกาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ นอกจากนี้พิธีกรมักยกเรื่องที่เขาจบปริญญาตรีและโทสาขาภาษาอังกฤษจากสแตนฟอร์ดภายในเวลา 3 ปีครึ่งอยู่เสมอ   แม้ในอเมริกาเราไม่ถือนับว่านั่นคือคุณสมบัติของแร็พเปอร์ แต่ที่บ้านเกิดเขาถูกยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ

ตอนนี้พวกเขากำลังสร้างกลุ่มแฟนเพลงในสหรัฐ ในงานนิวยอร์คโชว์นั้นโชว์ของ Epik High ขายบัตรหมดเกลี้ยงทั้งในซานฟราซิสโกและลอสแองเจลลิส ความสำเร็จนี้ยังมองได้จากยอดขายใน iTunes ที่เพลงของทั้งสามคนได่ขึ้นฮิปฮอปชาร์ท และอีกไม่นานจะได้ขึ้นอันดับหนึ่งใน US แซงหน้า Kanye West และ Jay-Z



แต่เมื่อไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดของกลุ่ม ในคอมเมนต์ของบทความเกี่ยวกับ Epik High ก็เริ่มมีผู้ไม่ประสงค์ออกนามแสดงความสงสัยเกี่ยวกับปริญญาสแตนฟอร์ดของเขา ในเดือนพ.ค. 2010 กลุ่มแอนตี้แฟนรวมตัวกันอย่างรวดเร็วจนมีสมาชิกถึง 1 แสนคน ทั้งหมดกล่าวหาว่าเขาสวมรอยเป็นคนอื่น หนีการเกณฑ์ทหาร และปลอมพาสปอร์ต ปริญญารวมไปถึงทรานสคริปต์ การกล่าวหาครั้งนี้มาพร้อมกับหลักฐานจากกลุ่มคนโลกออนไลน์ ซึ่งพวกเขาทำวิดีโอยูทูปโจมตีด้วย ถือเป็นปฎิกิริยาต่อต้านขั้นรุนแรงเลยทีเดียว

ฤดูร้อนปีนั้น คำกล่าวหาลีได้กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของเกาหลี เขาถูกขู่ฆ่า เขาถูกกลุ่มคนบนถนนโกรธขึ้งใส่ เนื่องจากทุกคนจำใบหน้าของเขาได้แล้ว เขาจึงกลายเป็นนักโทษอยู่ในคุกที่ชื่อว่าอพาร์ทเมนต์ของเขาเอง ในช่วงเวลานั้น เขาเปลี่ยนสถานะจากคนที่ผู้คนรักเป็นบุคคลที่ใครๆ ก็เกลียดชัง

แต่ในความจริงแล้วลีไม่ได้โกหกเรื่องปริญญาของเขาเลย เขาเรียนจบสแตนฟอร์ดปริญญา 2 ใบภายใน 3 ปีครึ่งจริงๆ GPA ของเขาอยู่ในระดับท๊อปคลาส 15 คนแรกที่ได้ GPA สูงสุดของชั้นป.ตรี ดังนั้นหลักฐานที่หาว่าเขาโกหกนั้นไม่เป็นความจริง มันคือการล่าแม่มดออนไลน์ ซึ่งฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาผมได้ไปพิสูจน์มาแล้วว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนั้น

ผมได้ยินเรื่องของลีครั้งแรกจากบรรณาธิการของนิตยสารสแตนฟอร์ดที่พิมพ์หนังสือสมาคมศิษย์เก่า (Stanford Alumni Association) เขาเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวที่แร็พเปอร์หนุ่มเผชิญ ทางแอดมินของมหาลัยและสมาคมศิษย์เก่าต่างพยายามช่วยเหลือเขาแต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก เขาจึงถามว่าผมสนใจเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องราวขัดแย้งนี้มั้ย ผมจึงตอบตกลง (ผมเป็นนศ.ป.ตรีของสแตนฟอร์ด)

ผมจึงเริ่มหาเพื่อนร่วมชั้นของลีและพูดคุยกับคน 4 คนที่อาศัยอยู่ที่เขตท่าเรือเมืองซานฟราซิสโก พวกเขารู้สึกแย่เมื่อเห็นลีเป็นทุกข์จากเหตุการณ์นั้น ลีเป็นคนฉลาด ทุกคนต่างเห็นด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ลีพิเศษออกไปคือความรักที่เขามีต่อเสียงดนตรี เขาอาจจะได้เข้าเรียนกฎหมายหรือเป็นผู้ให้คำปรึกษาตามวิถีคนธรรมดา แต่เขาเลือกกลับเกาหลีเพื่อสร้างกลุ่มฮิปฮอปของตัวเอง "มันเป็นอาชีพที่เสี่ยงมาก" คอนราด โล เอ่ย เขาเป็นรูเมทเก่าของลีและตอนนี้กลายเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของกูเกิ้ลแล้ว "ตอนนั้นเกาหลีไม่ชอบฮิปฮอปด้วยซ้ำ"

แน่นอนว่าลีเองก็ลำบากมากตอนเขากลับไปเกาหลีครั้งแรก Epik High ออกอัลบั้มมา 2 อัลบั้มแต่ไม่เป็นที่รุ้จักนัก ลีทำอัลบั้มที่ 3 ชื่อว่า Swan Songs (*งานชิ้นสุดท้ายก่อนตาย เพราะหงส์เป็นสัตว์ที่ร้องเพลงได้ 1 ครั้งในชีวิต พอร้องเสร็จมันก็จะตายไป) เขาคิดว่าถ้าอัลบั้มนี้ยังไม่ดังอีกเขาคงต้องกลับไปหางานธรรมดาทำแล้ว แต่ในปี 2005 อัลบั้มนี้กลับดังระเบิดและดึงดูดคนฟังในเกาหลีให้มาสนใจฮิปฮอป ลีกลายเป็นคนดัง และในอีก 5 ปีถัดมาเข้าก็ดังขึ้นเรื่อยๆ

การกล่าวหาเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2010 เมื่อใครบางคนสร้างบอร์ดออนไลน์ชื่อว่า TaJinYo ซึ่งเป็นตัวย่อในภาษาเกาหลีของคำว่า "บอกความจริงมาซะ ทาโบล" หัวหน้าของกลุ่มนี้ใช้ชื่อว่า Whatbecomes ซึ่งอาศัยอยู่ในสหรัฐ เขาอธิบายว่ากำลังติดต่อสำนักข่าวในเกาหลีและสหรัฐเพื่อบอกว่าลีเป็นคนโกหก ใจความหลักของการกล่าวหานั้นคือการที่ลีปลอมเอกสารรับรองจากสแตนฟอร์ดทั้งหมด

ตอนนั้นการปลอมปริญญาเป็นเรื่องอ่อนไหวในเกาหลี ในปี 2007 หัวหน้าผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ในกรุงโซลถูกจับได้ว่าปลอมปริญญาจากมหาวิทยาลัยเยลและถูกจำคุก 18 เดือน ข่าวฉาวนี้ทำให้อัยการเริ่มตรวจสอบคดี 120 กว่าคดีที่เกี่ยวกับการปลอมปริญญา รวมถึงการจับกุมดารา ทหาร และพระด้วย "ต้องมีมากกว่านี้แน่ๆ" อัยการเอ่ยกับสื่อ Bloomberg News "เราแค่ยังหาพวกเขาไม่เจอ"


ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับปริญญาของลี เนื่องจากตามปกติการเรียนปริญญาตรีต้องใช้เวลา 4 ปี และปริญญาโทใช้เวลา 1-2 ปี แต่ลีกลับทำได้ภายในเวลาน้อยกว่า 4 ปี นักศึกษายังต้องทำธีสิตเพื่อเรียนจบด้วยแต่ลีเองก็เคยยอมรับว่าเขาไม่เคยเขียนธีสิสเลย (เนื่องจากสาขาวิชาของเขาไม่ต้องเขียนธีสิส)

เมื่อช่าวซุบซิบลงบทความเกี่ยวกับเว็บแอนตี้แฟน สมาชิกของ TaJinYo ก็พุ่งขึ้นสูงกว่า 100,000 คน  เมื่อทุกคนรอการสืบสวนไม่ไหว บางคนจึงลงมือตรวจสอบอดีตของลีด้วยตัวเอง ไม่นานหลังจากนั้นเหล่าอ.และผู้ดูแลที่สแตนฟอร์ดก็ถูกโจมตีด้วยเมล์กระหน่ำถามเรื่องการศึกษาของลี โทมัส แบล๊ค นายทะเบียนของสแตนฟอร์ดได้อีเมล์ถึง 133 ฉบับ ทุกคนรุมกันถามเขาว่า: ลีโกหกเรื่องปริญญาหรือไม่?


สมาชิกในฟอรั่มดูสนุกสนานกับการสอบสวนผ่านโลกออนไลน์แบบนี้ "เราเรียกมันว่าเกม <ทาโบลออนไลน์>" แอนตี้คนนึงเขียนไว้พร้อมกับเรียกตัวเองว่าคนเล่นเกม <ทาโบล> พวกเขาทำราวกับว่าช่วงเวลานั้นเป็นเวลาหาเรื่องสนุกๆ ทำในช่วงพักกลางวัน ชายหนุ่มที่ชื่อ Whatbecomes ก็พัดไฟให้ยิ่งลุกโชนด้วยการเปิดเผยความลับดำมืดของลีทีละนิดเพื่อสร้างบรรยากาศดราม่า เขาเขียนไว้ว่า "ทำแบบนั้นมันสนุกกว่านี่นา"


Whatbecomes หยอดแผนการกระจายข่าวให้ขยายวงกว้างด้วยการให้คำใบ้ว่า: พวกสื่อสมรู้ร่วมคิดกับลีและปกป้องเขา เพราะลีอยู่ในกลุ่มนักร้องที่กำลังมีชื่อเสียง แต่คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถตอบโต้กลับได้ "เส้นบางๆ ที่กั้นระหว่างสื่อมวลชนกับคนรวยสามารถตัดให้ขาดได้ ด้วยการร่วมกันพิสูจน์คำโกหกของลี" นั่นคือสิ่งที่เขาเขียนไว้



Take out with full credit!
***กรุณาเอาไปทั้งเครดิต เข้าใจมั้ย?
Source: http://www.wired.com/underwire/2012/04/ff_koreanrapper/

Thai Trans by: Icys-fic.exteen.com

0 comments:

แสดงความคิดเห็น