Flag Counter

free counters

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

[Trans] ตามติดชีวิตซุปเปอร์สตาร์ฮิปฮอปจากเกาหลี แดเนียล ลี #2


ตามติดชีวิตซุปเปอร์สตาร์ฮิปฮอปจากเกาหลี แดเนียล ลี #2 (The Stalking of Korean Hip Hop Superstar Daniel Lee)
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาเหล่าสมาชิกฟอรั่มเริ่มคิดทฤษฎีของตัวเอง ชายที่ชื่อแดน ลี อาจเรียนจบสแตนฟอร์ดมาจริงๆ ก็ได้ แต่คำถามคือแล้วทาโบลคือแดน ลี จริงหรือ? พวกเขาถกเถียงกันกันว่าเป็นไปได้ลีขโมยชื่อแดน ลี ตัวจริงมาเพื่อเอาใบปริญญาสแตนฟอร์ดมาดันตัวเองให้มีชื่อเสียง "หลายคนเสียเงินมากมายเพื่อไปเรียนต่างประเทศ เขาต้องทำงานทั้งวันทั้งคืน" สมาชิกฟอรั่มคนนึงบอกกับกลุ่มคนทำทีวีที่เกาหลี ซึ่งเขาถูกเบลอใบหน้าตอนสัมภาษณ์ "แต่ทาโบลไม่ใช่ เขาแค่ทำเพลงฮิปฮอปแล้วก็ดังเลย"
ไม่ถึงเดือนหลังจาก Whatbecomes สร้างฟอรั่มขึ้นมา สมาชิกต่างควานหาตัว 'แดน ลี ตัวจริง' ในต่างประเทศ มีคนชื่อแดน ลีคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่อเมริกาได้รับเมล์ติดต่อว่า "เราคิดว่าคุณถูกนักร้องเกาหลีชื่อทาโบลขู่บังคับให้เรียนแทนเขาสินะ" สมาชิกคนหนึ่งเขียนหาแดน ลีคนนั้นบนเฟซบุ๊ค "ได้โปรดเถอะ บอกความจริงมา"

"อะไรนะ? พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว" ลีคนนั้นเอ่ย และอธิบายว่าชื่อของเขาเป็นชื่อธรรมดาที่ซ้ำกับคนอื่นได้ง่าย และยิ่งกว่านั้น เขาไม่เคยเรียนที่สแตนฟอร์ด ส่วนแดน ลี อีกคนที่จบสแตนฟอร์ดมาเมื่อปี 2002 เช่นเดียวกับแร็พเปอร์หนุ่มก็ถูกรุมถามเช่นกัน "วันหนึ่งผมเริ่มได้ข้อความจากคนที่อาศัยในเกาหลี ต่อว่าผมที่ให้แร็พเปอร์ขโมยชื่อผมไป" แดน ลีคนนี้เอ่ย ซึ่งเขาทำงานอยู่ที่แผนกออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เมืองวิสคอนซิน "ผมไม่รู้เรื่องเลยว่าพวกเขาพูดถึงอะไร"
แต่ Whatbecomes ก็ไม่สนใจ เขาปลุกระดมให้ทุกคนทวีความรุนแรงขึ้นอีก โดยบอกว่าเขาต้องการให้ 'ทาโบลและครอบครัวของเขาเป็นบ้าตายไป' และเขาขู่ฆ่าทุกคนด้วย "อัดไอ้พวกลูกหมาจอมลวงโลกนั่นให้ลิ้มรสถึงความเป็นจริงซิ" เขาเขียนไว้เพื่อปลุกระดมทุกคนให้โจมตีครอบครัวของลี แม่ของลีได้รับโทรศัพท์ขู่ฆ่าบ่อยครั้ง เมื่อถึงเวลามื้อค่ำของครอบครัว เธอก็มักได้รับโทรศัพท์ผู้ชายบอกว่า "ยัยสารเลว" เขาเอ่ย "แกกับครอบครัวควรไสหัวไปจากเกาหลีได้แล้ว" นอกจากนี้ข่าวยังลงเรื่องน่าสงสัยของน้องชายของลี ที่ชื่อว่าเดวิด ซึ่งเขาเรียนป.ตรีที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียแต่ไม่จบการศึกษา ทว่ามีคนไปเจอเว็บ(ที่เขียนข้อมูลผิด)ว่าเดวิดจบการศึกษาแล้ว จึงไปถล่มช่องทีวีที่เขาทำงานอยู่ที่โซล เป็นผลทำให้เขาถูกออกจากงาน บ้านเลขที่และเบอร์โทรของเดวิดถูกโพสต์ขึ้นเน็ตและเริ่มมีโทรศัพท์ไปข่มขู่ ชายคนหนึ่งบอกว่าเขาจะแทงเดวิดให้ตายโทษฐานที่โกหกเรื่องปริญญา




ส่วนสมาชิกคนอื่นไปหาจอห์น เช็นค์ ทนายความที่เบเวอร์รี่ ฮิลที่เคยแปะข้อความในเว็บไซด์บอกว่าเขาจบจากสแตนฟอร์ดสาขาเดียวกับลี แต่จบก่อนเขา 1 ปี (ปี 2001) เหล่าสมาชิกจึงยัดเงิน $10,000 ให้เขาเพื่อให้เขาเซ็นยินยอมว่าไม่เคยเห็นลีที่มหาลัยเลย ซึงเช็นค์เรียบจบคนละปีกับลี จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะไม่เคยเจอลี อย่างไรก็ตามเช็นค์รับเงินก้อนนั้นและยอมเซ็นสัญญา ซึ่งต่อมามันกลายเป็นหลักฐานที่อ้างว่าลีโกหก ส่วนทางเช็นค์อ้างว่าเขาไม่เคยรับเงินตามที่โดนกล่าวหา
เหตุการณ์เริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ทางต้นสังกัดของลี Woollim Entertainment ไม่ได้ออกมาปกป้องเขาเลยจนกระทั่งถึงเดือนมิ.ย. เมื่อพูดถึงการช่วยเหลือ ลีบอกว่าทาง Woollim ไม่เคยช่วยเหลือใดๆ เลย เขาจึงออกจากต้นสังกัดในเดือนนั้น
ลีคิดว่าวิธีตอบโต้ที่ดีที่สุดคือการตีแผ่ความจริง เขาจึงเอาทรานสคริปต์ออกมาแถลงข่าว ซึ่งทางสแตนฟอร์ดก็รับรองวุฒิการศึกษาของเขา ที่จริงเขาเชื่อว่าหลักฐานพวกนี้มีน้ำหนักเพียงพอที่จะโต้คำกล่าวหา แต่กลับกลายเป็นว่าแอนตี้จำนวนหนึ่งส่งคำร้องไปหาตำรวจบอกว่าลีสร้างหลักฐานพวกนั้นขึ้นเอง ทางหน่วยงานในเกาหลีจึงเริ่มตรวจสอบ คดีนี้จึงกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของประเทศ กลบข่าวเรื่องที่ลีพยายามบอกความจริงกับทุกคนไปหมดสิ้น
Whatbecomes ทำให้ความอาฆาตของเขากลายเป็นประเด็นระดับชาติได้ในที่สุด สมาชิกหมื่นกว่าคนของ TaJinYo ช่วยกันทำลายชีวิตของนักร้องอนาคตไกลของเกาหลีคนนี้ทีละน้อย จากนั้นลีก็หายไปจากสายตาประชาชน


ในเดือนก.ค. ปี 2011 หลังจากที่เขียนบทความให้ Stanford Magazine ผมก็บินไปเกาหลีเพื่อตรวจสอบสมาชิกในฟอรั่มบางคน และไปดูว่าลีเป็นยังไงบ้าง เขาไม่ได้ขึ้นเวทีหรืออัดเสียงอีกแล้ว ไม่ค่อยได้ออกจากอพาร์ทเมนต์ด้วย ชายหนุ่มอายุ 30 คนนี้เก็บตัวอยู่ในอพาร์ทเมนต์ในย่านชนชั้นล่างของโซล
ผมมาถึงโซลในวันที่บทความของผมตีพิมพ์ออนไลน์พอดี ซึ่งบทความนั้นช่วยยืนยันว่าสแตนฟอร์ดรับรองประวัติการศึกษาของเขา อาจารย์ที่ม.ก็รับรองตัวเขาด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเคยเรียนที่สแตนฟอร์ดและจบการศึกษามาอย่างที่เขาอ้าง ผมคิดว่าด้วยหลักฐานขนาดนี้ไม่น่าจะมีข้อโต้แย้งใดๆ แล้ว
ผมคิดผิด ตอนอยู่ที่โซลผมได้รับเมล์ด่าทอจากคนอ่านมากมายที่ยังเชื่อว่าปริญญาของลีเป็นของปลอม พวกเขาส่งข้อความที่บอกว่าเครื่องหมายจุลภาคและคำเชื่อมบนทรานสคริปต์ดูน่าสงสัย ถ้าผมไม่ยอมรับข้อสงสัยนี้ พวกเขาก็จะบอกว่าผมสมรู้ร่วมคิดด้วย "แกพลาดแล้วล่ะที่แปะชื่อแกบนบทความ" ชายคนหนึ่งอีเมล์มาหา "นักเล่นเกม <ทาโบลออนไลน์> จะจำชื่อแกไว้"
ตอนแรกลีปฎิเสธจะพบหน้าผม เขาเชื่อว่าการตีแผ่คำโต้แย้งมีแต่จะทำให้พวกสื่อกระพือข่าวปลอมปริญญามากขึ้นและยิ่งทำให้เขามีแอนตี้เพิ่ม แต่หลังจากผมอธิบายว่าผมอยากได้ยินเรื่องราวจากปากของเขาโดยตรง เขาจึงยอมออกมาเจอผมที่ล๊อบบี้โรงแรม

ตอนที่ลีเดินเข้ามาหา สภาพเขาดูไม่ได้เลย เขาไม่มีเค้าของฮิปฮอปสตาร์ที่เย่อหยิ่งอีกแล้ว ผมของเขารุงรังเป็นสังกะตัง นิ้วเรียวคีบบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุด และสอดสายตามองไปรอบห้องด้วยความหวาดกลัว คนในล๊อบบี้ต่างจ้องมองเขา ผมจึงถามเขาว่ารู้สึกยังไงบ้าง

"พวกเขาบอกว่าฉันไม่ใช่ตัวฉัน แล้วฉันก็ไม่สามารถทำให้เขาเชื่อได้ว่านี่คือตัวฉัน" เขาพึมพำ "เหมือนอยู่ในนิยายของคาฟคา*เลย"





*Note - นิยายของคาฟคาเป็นต้นกำเนิดนิยายประเภทเน้นความรุนแรงทางร่างกายและจิตใจ โดยในเรื่อง The Trial เป็นเรื่องเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาแล้วโดนจับโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเขาทำอะไรผิด และทุกคนที่เขารู้จักก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ


Take out with full credit!
***กรุณาเอาไปทั้งเครดิต เข้าใจมั้ย?
Source: http://www.wired.com/underwire/2012/04/ff_koreanrapper/
Thai Trans by: Icys-fic.exteen.com

0 comments:

แสดงความคิดเห็น