Flag Counter

free counters

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

BIGBANG : การสร้างสรรค์เทรนด์ใหม่ๆจากพวกเค้า

Bigbang กลุ่มศิลปินไอด้อล กับการเปิดตัวหนังสือเป็นครั้งแรกของพวกเค้า
ซึ่งในงานเปิดตัวหนังสือ “Shout your name to the world”
เราได้มีโอกาสพูดคุยกับพวกเค้าถึงหนังสือเล่มนี้แนะนำถึงหนังสือเล่มนี้กับผู้อ่านขอ
งเรา


TOP: การที่เราตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ ก็เพียงเพื่อต้องการเผยถึงเรื่องราวของเราที่ไม่เคยมีโอกาส
เปิดเผยที่ไหนมาก่อน เราไม่ได้มีเจตนานอกเหนือจากนี้เลย เรื่องราวในหนังสือเป็นสิ่งที่มีค่า
ต่อความรู้สึกของพวกเรา ผมหวังว่าคงมีคนสนับสนุนหนังสือเล่มนี้ครับ

Daesung: หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ต้องการสื่อถึงเรื่องราวความสำเร็จของเรา แต่เป็นเรื่องของประสบการณ์
ที่เราต้องฝ่าฟันกันมา หวังว่าทุกคนคงให้ความสนใจกับหนังสือของพวกเราครับ

G-Dragon: อย่างที่แดซองกล่าว หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสำเร็จของเรา ถึงแม้ว่าหลาย
คนอาจจะมองเป็นอย่างนั้นได้ แต่เมื่อคุณได้อ่าน คุณจะตระหนักถึงสารที่เราสื่อออกไปเพื่อให้
ทุกคนยึดมั่นกับความฝัน และมีความหวังอยู่เสมอ

Taeyang: หนังสือเล่มนี้ จะช่วยเป็นแรงบันดาลใจ และผลักดันคนที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักร้อง หรือวัยรุ่นทั่วไป
ให้ทำตามฝันของตนเอง สำหรับคนที่มุ่งมั่นทำตามความฝันของตน หนังสือเล่มนี้ก็เสมือนเป็นแนวทางหนึ่ง

Seungri: ตอนที่ทางตัวแทนทีมงานแจ้งเราถึงแผนงานนี้ สมาชิกในทีมต่างก็รู้สึกตกใจ แต่หลังจากที่เรา
ได้ออกความคิดเห็นร่วมกัน เราจึงลงความเห็นว่าพวกเราน่าจะเขียนถึงเรื่องราวที่มาจากเรื่องจริงที่
พวกเราผ่านกันมาในอดีด หลายคนอาจจะคิดว่า ศิลปินคนไหนๆก็เขียนเรื่องอย่างนี้ได้ แต่พวกเรา
หวังว่า คนรุ่นใหม่ หรือคนที่มีความฝันจะมีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้


ในหนังสือ ทุกคนมีโอกาสเขียนถึงเรื่องราวต่างๆของตนเอง ดังนั้น นอกจากเรื่องราวของ
ตัวเอง คุณคิดว่าเรื่องของสมาชิกคนไหนมีความหมายต่อคุณบ้าง


TOP: แทนที่จะกล่าวถึงเรื่องราวของใครเป็นพิเศษ ทำไมเราไม่กล่าวว่าในเรื่องราวของแต่ละคนมี
ความหมายพิเศษ และทำให้ผมตระหนักว่า เรื่องราวของสมาชิกแต่ละคนมีความคล้ายคลึงกับของผม
เหมือนกับว่าเราสิ่งต่างๆมาด้วยกัน ความพิเศษ พัฒนาการ หรือความคิดของแต่ละคน สามารถสื่อผ่าน
ทางหนังสือเล่มนี้ออกมา

Daesung:ตอนที่หนังสือออกมาใหม่ๆ และผมได้มีโอกาสอ่านนั้น ผมรู้สึกได้ถึงความพิเศษของสมาชิก
แต่ละคน ผ่านทางตัวอักษร ฉะนั้นจึงเป็นการยากที่จะเลือกเรื่องราวของสมาชิกคนใดคนหนึ่งที่มี
ความหมายต่อผมมากที่สุด ทุกเรื่องราวมีคุณค่าต่อผม และทำให้ผมเรียนรู้จากพวกเค้ามากขึ้น

G-Dragon: คุณสามารถรับรู้ถึงความพิเศษของหนังสือเล่มนี้ หากคุณได้อ่านมัน คุณจะได้สัมผัส
และรู้จักตัวตนของพวกเรามากขึ้น ผ่านการอ่านเรื่องราวเหล่านี้ในหนังสือ ดังนั้นมันจึงเป็น
เรื่องที่ยากสำหรับผมที่จะหยิบยกเรื่องราวของใครขึ้นมาเป็นพิเศษ

Taeyang: เนื่องจากจิยงกับผมผ่านประสบการณ์ร่วมกันมาเป็นเวลานาน คำพูดของเค้าจึงมีความหมาย
เป็นพิเศษต่อผม ตอนที่เพื่อนคนอื่นๆท่องจำคำศัพท์ แต่พวกเรากลับต้องซ้อมเพื่อจำท่าเต้น
เพราะว่าเราต้องพยายามแสดงความสามารถของเราออกมา เพื่อเราจะได้เป็นที่จดจำอยู่ในวงการดนตรี

Seungri: ในฐานะน้องเล็กของวง คำพูดของพี่ๆ มีความหมายต่อผมมาก แค่คำพูดในหนังสือก็ทำให้
ผมรับรู้ถึงประสบการณ์อันยากลำบากในอดีตของพวกพี่ๆ


ไม่ว่าใครจะกล่าวอย่างไร หนังสือเล่มนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวจาก Bigbang ซึ่งน่าจะส่งผล
ต่อวัยรุ่นทั่วไปเป็นอย่างมาก คุณรู้สึกถึงภาระนี้กันอย่างไร?


Taeyang: การเขียนหนังสืออย่างนี้ขึ้นมานั้น ย่อมมากับความรับผิดชอบเสมอ แม้ว่าเราอยากเขียน
เรื่องราวต่างๆมากกว่านี้ แต่เราก็มักจะมีความคิดว่า หนังสือเล่มนี้จะมีส่วนช่วยเหลือจริงๆเหรอ
อย่างไรก็ตาม พวกเราคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราที่ผ่านมานั้น หากเราไม่ได้เสริมแต่งให้ดูสวยงาม
เกินจริง หากแต่นำเสนอด้วยความจริงใจ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยได้ ดังนั้นก่อนที่หนังสือเล่มนี้จะ
ถูกตีพิมพ์ พวกเราได้ตรวจสอบจนแน่ใจถึงเรื่องราวที่จะนำเสนอในหนังสือ หากเรื่องไหนมี
ความผิดพลาด เราก็จะแก้ไขในทันที


จากที่เรารับรู้กันมาว่า ก่อนที่ศิลปินจะเดบิวกันนั้น บรรดาพ่อแม่มักจะไม่เห็นด้วย
กับความคิดของเค้าเหล่านั้น ทางเราคิดว่าพ่อแม่ของพวกคุณคงมีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้
กันแล้ว ปฎิกริยาของพวกท่านเป็นยังไงบ้าง


Taeyang: จนกระทั่งถึงจุดที่ผมกำลังจะเปิดตัวเป็นนักร้อง พวกท่านก็ยังมีความสงสัยในตัวผมอยู่
ท่านมักจะพูดเสมอว่า “ลูกจะทำได้จริงๆเหรอ” แต่ตอนนี้ท่านเริ่มเชื่อมั่นในตัวผมมากขึ้น
พวกท่านรู้สึกซึ้งมากหลังจากที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้

Daesung: หลังจากที่พวกท่านอ่านหนังสือแล้ว ท่านก็เริ่มตระหนักถึงความคิดของผมในช่วงที่
ผ่านมาตอนที่พวกท่านต่อต้านความฝันที่ต้องการเป็นนักร้องของผม พวกท่านกล่าวว่าเค้า
ขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา ซึ่งพวกท่านเรียนรู้ความนึกคิดของผมหลังจากที่ได้อ่านหนังสือ
ท่านได้เห็นว่าผมโตขึ้น และยึดมั่นกับเส้นทางนี้ ท่านก็รู้สึกพอใจมาก

Seungri: หลังจากที่แม่ผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ท่านรีบส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือมาหาผมทันทีว่า
“ลูก แม่รู้สึกซาบซึ้ง ตอนนี้แม่น้ำตาไหลแล้ว พ่อกับแม่จะสนับสนุนลูกให้มากกว่านี้นะ” ผมรู้สึกได้
ว่าพวกท่านเสียใจจริงๆ แต่พ่อครับ แม่ครับ ทั้งสองคนน่าจะสนับสนุนผมให้มากกว่าที่เป็นอยู่หน่อยนะ
(กล่าวพร้อมกับหัวเราะ) ผมจะพยายามให้มากขึ้นกว่านี้ครับ

TOP: แม่ผมค่อนข้างจะพอใจกับหนังสือเล่มนี้ครับ หลังจากอ่านจบ ท่านกล่าวว่า “ลูกเป็นคนที่
จริงใจมากนะ เพราะลูกบอกเล่าเรื่องราวลงไปทุกอย่างในหนังสือเล่มนี้” ก็เนื่องจากว่าผมเขียน
เรื่องราวทุกอย่างตั้งแต่ต้น สมัยที่ผมยังเป็นเด็กอยู่

G-Dragon: ดูเหมือนว่า พ่อแม่ของพวกเราทุกคนรู้สึกเหมือนกัน เนื่องจากเหล่าลูกๆของพวกท่านได้
เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ทำให้พวกท่านเข้าใจในตัวพวกเรามากขึ้น ถึงแม้ว่าผมอาจดูเหมือนคน
ช่างพูด แต่เหมือนกับคำว่า “ขอบคุณ” กับ “ผมรักคุณ” นั้นก็ไม่ได้กล่าวกันง่ายๆเลย แต่ผมก็มี
โอกาสได้กล่าวคำเหล่าผ่านหนังสือเล่มนี้


ระหว่างที่เขียนหนังสือเล่มนี้ มีช่วงไหนบ้างที่พวกคุณรู้สึกว่ากำลังสับสนอยู่

G-Dragon: ก่อนอื่นเลย ตั้งแต่เราทราบว่า เราต้องเขียนหนังสือเล่มนี้ ก็มีความคิดหลายอย่างผ่านเข้ามา
เช่นว่า คนทั่วไปจะคิดอย่างไรกันเกี่ยวกับหนังสือที่พวกเราเขียน หรือ เราจะเขียนกันได้จริงๆเหรอ
เนื่องจากอายุของพวกเรายังน้อย พวกเราเป็นกังวลกันอย่างมากว่าหากหนังสือถูกตีพิมพ์ออกไป
หลายๆคนอาจจะรู้สึกไม่พอใจก็ได้ ในความเป็นจริงแล้ว เนื่องจากเราไม่ได้มีประสบการณ์ในการ
เขียนหนังสือกันมาก่อน ทำให้เรารู้สึกค่อนข้างสิ้นหวัง แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อเราคิดกันว่าสิ่งนี้ก็
เหมือนกับการที่เราพยายามแต่งเพลง ที่สร้างสรรค์แปลกใหม่ให้กับวงการดนตรี เป็นการทดลอง
สิ่งใหม่ๆอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเราคิดได้อย่างนี้ เราก็มีความมั่นใจที่จะเขียนหนังสือเล่มนี้มากขึ้น
ตอนนี้ปฎิกริยาที่เราได้รับต่อเรื่องราวในหนังสือก็ค่อนข้างน่าพอใจ พวกเรารู้สึกขอบคุณทุกคนมากครับ


ใครที่คุณอยากให้อ่านหนังสือเล่มนี้บ้าง

G-Dragon: แม้ว่าคุณจะอายุมากก็ไม่สำคัญ เราคิดถึงเรื่องนี้ตอนที่เราเขียนกันไปด้วยว่า “แม้ว่าคนเขียนยัง
อายุน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่อ่านจะเป็นเพียงแต่คนที่อายุยังน้อยเท่านั้น” มันไม่สำคัญเลย
เพราะคนที่อ่านหนังสือเล่มนี้จะได้รับกำลังใจและความหวังมากขึ้น

Taeyang: อย่างที่จิยงกล่าว ทุกคนสามารถอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ แต่ยังไงก็ตามเหล่าวัยรุ่นน่าจะได้รับเรื่อง
ราวดีๆจากหนังสือเล่มนี้มากที่สุด


ถ้าอย่างนั้น ช่วยกล่าวอะไรกับคนที่ใฝ่ฝันว่าจะเป็นอย่าง Bigbang ในอนาคต

Seungri: มีความมั่นใจเสมอครับ แม้จะเผชิญกับอุปสรรคอะไรก็ตาม

Taeyang: พยายามฟังเพลงทุกแนวให้มากที่สุด ในการที่จะเป็นนักร้องนั้น คุณต้องเรื่มจากการเป็นคนรัก
ในเสียงดนตรีก่อน เพราะนี่คือสิ่งจำเป็นครับ

G-Dragon: ผมไม่รู้ว่าผมอยู่ในตำแหน่งที่จะแนะนำใครได้หรือเปล่า แต่ตอนที่ผมยังเป็นเด็กผมมักจะ
มองดูรุ่นพี่พยายามทำตามฝันของตน ผมหวังว่าจะมีคนมองดูพวกเราอย่างนั้นบ้าง ซึ่งหากคุณ
พยายามทำตามความฝันของคุณอย่างตั้งใจ คุณจะสามารถประสบความสำเร็จได้ยิ่งกว่าพวกเราอีกครับ

Daesung: อย่าละทิ้งความสนใจไปจากกลุ่มสมาชิกของตน พยายามให้มากๆ เพราะความฝันคือสิ่งสำคัญ

TOP: ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีความฝันเป็นนักร้อง พวกเรายังอยากให้กำลังใจกับวัยรุ่นทุกคนที่มี
ความฝันอันยิ่งใหญ่รอพวกเค้าอยู่ข้างหน้า ตอนที่ผมยังเด็ก ความคิดของผมมักจะไม่ค่อยได้เรื่อง
ความคิดที่ว่า ฉันเป็นใคร ฉันควรทำอย่างไรกับชีวิต สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมหงุดหงิดมาก สิ่งเหล่านี้
ผมเพียงอยากจะบอกว่า เราอย่าจำกัดตัวเอง เราจงเป็นในสิ่งที่ตัวเราแสดงออก ไม่ใช่ทำไปเพราะ
มีกฎเกณฑ์มาบังคับให้เราทำ


นอกจากหนังสือแล้ว ทางเราอยากทราบถึงผลงานเดี่ยวของจิยงกับแทยัง ว่ามีความ
คืบหน้าไปถึงไหนบ้างแล้ว


G-Dragon: แทยังกับผมกำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมงานอยู่ครับ น่าจะเสร็จประมาณเมษาหรือไม่ก็
พฤษภาครับ เรื่องของคอนเซ็ปต์ ไว้ว่ากันวันหลังครับ (หัวเราะ)

Taeyang: ผมกำลังเตรียมตัวสำหรับงานเดี่ยวชุดที่สองอยู่ครับ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีคอนเซ็ปที่แน่นอน
หากมีอะไรคืบหน้า ก็จะแจ้งให้ทุกคนทราบ โปรดติดตามผลงานพวกเราต่อไปนะครับ


Credit: English translation by large bang@soompi
Thai translation by grayvee@bigbangpop

0 comments:

แสดงความคิดเห็น