Flag Counter

free counters

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

[Trans] สัมภาษณ์ TOP จากนิตยสาร Goethe


 Reduced: 78% of original size [ 650 x 445 ] - Click to view full image


ด้วยความต้องการที่จะเป็นคนที่ " ทุ่มเทเวลาในช่วงวัยรุ่นให้กับการทำงาน"
ศิลปินเกาหลีที่มีตารางงานยุ่งมากคนนี้ ได้ดึงดูดความสนใจของเรา
ผู้อ่าน อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหน้าเค้าซักเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม
ด้วยความหลงใหลและความทะเยอะทะยานในอาชีพที่ไม่รู้จักหมดของเค้าคนนี้ ทำให้เค้าโดดเด่นและน่าสนใจมากทีเดียว

"ผมอยากจะเป็นเหมือนกับผู้บุกเบิกที่สามารถริเริ่มเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆได้ครับ"

ดูเหมือนเค้าจะเคยต้องทนทุกข์กับเรื่องของขนบธรรมเนียมงั้นเหรอถึงมีความคิดแบบนั้น??
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามแต่ ท็อปก็เลือกทางเดินมาที่สายนี้ และได้บอกเล่าเรื่องบางอย่างที่น่าตกใจในการสัมภาษณ์นี่ที่ญี่ปุ่น
ที่ที่เค้าได้รับความนิยมมากขึ้นๆๆเรื่อยแล้วที่นี่ ซึ่งความโด่งดังของเค้าที่ประเทศเกาหลีนั้น แถบจะไม่ต้องพูดถึงอีกต่อไป

"มีอยู่ช่วงนึง หลังจากที่ผมเสร็จสิ้นจากการถ่ายทำภาพยนตร์และไม่ต้องแสดงอีกต่อไปผมกลับมาที่ห้องของผมซึ่งผมอยู่คนเดียว
จู่ๆผมก็ไม่สามารถที่จะแยกได้ว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ในโลกแห่งความจริงรึเปล่า??
จริงอยู่ว่าผมก็เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนนะครับ
ซึ่งผม ก็เกิดอาการนอนไม่หลับเพราะเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เป็นบ่อยเลยทีเดียวครับ "




ก่อนหน้านี้เราได้รู้จักท็อปจาก การร้องเพลงที่เข้าขั้นมาตรฐานและการแสดงบนเวทีที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์
เค้าเป็นหนึ่งในสมาชิกวง bigbang ที่โด่งดังมากที่ญี่ปุ่นและในเกาหลี เค้ามีบุคคลิกที่โดดเด่น
ด้วยหน้าตาที่หล่อและเสียง โทนต่ำ ที่แปลกใหม่
การแสดงบนเวทีของเค้ามักจะเก๋และทันสมัย และมีความเป็นผู้ชายสูง
ซึ่งมอบความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมากให้แก่ผู้ชม
เค้าไม่เพียงแต่โด่งดังในหมู่สาวๆเท่านั้น แต่ยังเป็นที่โด่งดังในกลุ่มหนุ่มๆๆอีกด้วย


นอกจากนี้ ความสามารถของเค้าไม่ได้หยุดอยู่ที่งานด้านดนตรีเท่านั้น
ในละครเรื่อง IRIS ที่ออกฉายในญี่ปุ่นด้วยนั้น ท็อปได้รับบทเป็นนักฆ่า
และทำลายล้างคำครหาที่ว่า "นักร้องไม่สามารถแสดงได้" ให้ทลายลง
มันยากที่จะจินตนาการได้ว่า ลึกๆๆในตัวคนอย่างเค้า จะมีล่องรอยของความเหงาซ่อนอยู่เหนือคำบรรยายต่างๆที่ได้กล่าวมา

"ผมจำเป็นจะต้องเป็น ท็อป ในการแสดงบนเวที และต้องเปลี่ยนไปเป็นตัวละครตามบทบาทเวลาแสดงละคร ครับ
เมื่อผมกลับมาสู่ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง หลังจากที่ต้องเปลี่ยนไปรับหน้าที่ต่างๆแล้ว
มันทำให้ผมต้องมาคิดทบทวนว่า จริงๆๆแล้วผมเป็นยังไงกันแน่
มีบางทีผมถึงกับขนาดที่ไม่รู้ว่า ตัวตนที่แท้จริง หรือด้งเดิมแล้ว ผมเป็นคนยังไงกันแน่ "


บางทีอาการแบบนี้อาจจะมาจากการที่เค้าอยู่ในวงการที่แสนจะตื่นเต้นอยู่เวลา
เค้าคงจะต้องมีลักษณะตัวตนที่ต่างไปเวลาอยู่ใต้แสงไฟ
เมื่อแสงไฟนั้นดับลง เค้าก็กลับมาเป็นตัวเองและอาจจะลืมแนวทางของตัวเองไปบ้าง
ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่เค้าเลือกที่จะรับงานการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Into The Fire

"เมื่อตอนที่ผมถูกชวนให้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมกำลังอยู่ในช่วงการทัวร์คอนเสริต์ที่ญี่ปุ่นและทำอัลบั้มเดี่ยวครับ
ในตอนนั้น มีครั้งนึงที่ผมแว้บคิดขึ้นมาว่าจะปฏิเสธโอกาสนี้เหมือนกัน แต่พอได้อ่านบทแล้ว ผมก็เปลี่ยนใจ
ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆที่ผมจะจัดการงานทั้งหมดในตอนนั้นได้
แต่นี่มันจะเป็นโอกาสสำหรับผมที่จะได้ออกไปสำรวจสิ่งใหม่ๆๆ"


สงครามเกาหลีที่เป็นเนื้อเรื่องหลักในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
เนื้อเรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับกองทหารของเกาหลีและนักเรียนทหาร
ภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งไปที่การโจมตีของทางเกาหลีเหนือ แม้ว่านักเรียนทหารเหล่านั้น จะไม่มีประสบการณ์ในการรบ
แต่พวกเค้าก็เลือกที่จะออกไปต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมือง ของพวกเค้า
ในภาพยนตร์มีการบรรยายให้เห็นภาพของความโหดร้ายและความไม่เที่ยงแท้ของสงคราม
บุคคลิกของท็อปในเรื่องทำให้คนดูต้องเสียน้ำตาจากเรื่องราวของเค้า
ที่เกาหลี ผู้ชมมากมายที่หัวใจถูกตรึงไปกับบทบาทของเค้าที่ต้องเจ็บปวดกับความไม่ปลอดภัยและความหวาดกลัว
ในฐานะที่เป็นหัวหน้ากองนักเรียนทหาร ซึ่งบทบาทนี้เค้าสามารถเล่นได้สมจริงมาก
นอกจากนี้เค้ายังชนะรางวัล ดาราหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากงาน The Blue Dragon Film Festival
ซึ่งถือได้ว่าเป็นงานออสการ์ของประเทศเกาหลีก็ว่าได้
แต่สิ่งที่เค้าได้รับมาในครั้งนั้น มันมีมากกว่ารางวัลเสียอีก

สิ่งที่เค้าได้รับมาคือ ความดีใจที่เห็นคนในวัยหนุ่มสาวหันมาสนใจในภาพยนต์เรื่องนี้เพราะเค้าเข้ามามีส่วนร่วม
ท้อปที่มักจะมีแต่สาวๆๆมาล้อมรอบและกรี๊ดใส่เค้า มันไม่ง่ายเลยสำหรับเค้าที่จะมารับงานที่ท้าทายแบบนี้
และยิ่งงานนี้เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามที่วัยรุ่นมักจะเมินหน้าหนี
ดังนั้นการที่เค้าได้ยินมาว่า วัยรุ่นให้ความสนใจในภาพยนตร์เรื่องนี้ และ พูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ในอินเตอร์เนท
แค่นี้ก็ทำให้เค้ารู้สึกดีใจและรู้สึกสำนึกบุญคุณอย่างมาก

"ในฐานะคนรุ่นใหม่ เราไม่เข้าใจหรอกครับว่าสงครามเป็นยังไง
เราเลยไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กันและเมินมันไป เหมือนว่ามันไม่มีเรื่องแบบนี้อยู่ในโลก
ถ้าการที่ผมได้เข้ามาร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คนรุ่นใหม่ ได้รู้สึกอะไรบ้างเกี่ยวกับสงคราม
ผมก็คิดว่างานนี้เป็นงานที่มีความหมายมากสำหรับผมจริงๆ "


"ครับ จริงๆแล้วผมเป็นนักร้อง แต่ผมไม่ได้คิดถึงความโด่งดังอะไรเลยของตัวเองตอนที่ผมตัดสินใจที่จะรับแสดงบทบาทนี้
ผมคิดแค่ว่าผมอยากจะตะโกนอยากจะส่งข้อความออกไปครับ"


"ผมมักจะมีความรู้สึกมุ่งมั่นที่จะส่งข้อความบางอย่างให้กับผู้คน ผ่านเพลงของผมหรือไม่ก็ผ่านการแสดงของผม
ถึงแม้ว่าผมจะไม่คิดว่าตัวเองเหมาะกับการเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่น แต่ในฐานะศิลปินแล้ว
มันมีบางเวลาที่ผมต้องการจะเปลี่ยนแปลงอะไรในโลกนี้และพูดถึงเรื่องจริงที่อยู่รอบๆตัวเราในทุกวันนี้ออกมา
ผมต้องการที่จะแสดงออกถึงสิ่งใหม่ๆให้กับผู้ฟังอยู่ตลอดเวลา และบางครั้งผมก็รู้สึกดดันอย่างมากกับความต้องการนี้
ผมว่านี้เป็น โชคชะตาของการเป็น ศิลปินนะครับ "


สิ่งที่เรารู้สึกหลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ของเค้าคือ ท็อปนั้นภูมิใจในการที่เค้าได้เป็นตัวแทนของคนในรุ่นของเค้า
และในความเป็นนักร้องของตัวเอง ดูเหมือนว่าเค้าจะวางแผนที่ชัดเจนให้กับอนาคตที่จะถึงของเค้าไว้แล้ว

" ยังไงก็ตาม จนกระทั่งทุกวันนี้ผมก็จะกลับไปนั่งคิดเรื่องที่ผมได้ทำลงไปแล้วในทุกๆๆวันครับ
คิดถึงเรื่องที่ทำไปเมื่อวาน ในวันนี้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ดูเหมือนว่าผมกำลังลงมือทรมานตัวเองสินะครับ (หัวเราะ)
แต่ผมคิดว่าถ้าผมไม่ย้อนกลับมาคิดหรือสะสมความคิดแบบนั้นเอาไว้มันจะทำให้ผมคิดไอเดียใหม่ๆๆไม่ออก
ไม่ว่าจะป็นเรื่องของเนื้อเพลงหรือเรื่องของการแสดง อีกอย่างผมไม่สามารถที่จะหยุดทรมานตัวเองด้วยวิธีแบบนี้ได้
เพราะผมคิดว่าความเจ็บปวดที่ได้มาในกระบวนการนั้นจะแปรสภาพเปลี่ยนเป็นเป็นแหล่งพลังงานชั้นยอด
และนั่นทำให้ผมไม่กลัวและไม่หวั่นไหวครับ "


ท็อปกำลังมีความสุขและสนุกกับสิ่งที่เค้าทำในตอนนี้อย่างมาก
ท็อปกล่าวว่าถ้าให้เทียบกับการ ตกหลุมรักและเล่นสนุก เค้าชอบที่จะลุ่มหลงอยู่กับการทำงานมากกว่า


" ยกตัวอย่างนะครับ เวลาที่ผมย้อนกลับไปคิดเรื่องในความทรงจำ
ผมก็มีความทรงจำในเรื่องของ "การที่ตกหลุมรักใครซักคนอย่างหัวปลักหัวปำ" มาแล้ว
แต่ถ้าจะให้เลือกความทรงจำในเรื่องของความรัก ผมต้องการที่จะเป็นคนที่ "ทุ่มเทเวลาในช่วงวัยรุ่นให้กับการทำงาน" มากกว่า
เพื่อที่ว่าในอนาคตถ้าผมย้อนกลับมาคิดเรื่องราวในอดีต ผมจะได้ภูมิใจและพูดได้ว่าผมใช้เวลาทุกวันอย่างคุ้มค่า
ไม่มีวันไหนเลยซักวันที่ไร้ประโยชน์ เพราะผมทำงานหนักมากจริงๆ"


"ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ผมต้องการอยากจะทำ และมีอะไรอีกมากมายที่ผมอยากจะประสบความเร็จ
อะไรที่ผมอยากจะได้รับเพื่อที่จะได้รู้สึกว่าประสบความเร็จแล้วเหรอครับ???
อืม ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าจริงๆแล้ว ที่เรียกว่าประสบความสำเร็จนั้นมันต้องเป็นยังไง ??
ผมไม่ค่อยรู้ว่าจริงๆแล้วเป็นยังไงแต่ผมว่ามันคงต้องแตกต่างไปในแต่ละคน เนื่องจากค่านิยมที่หลากหลายและสังคมที่ต่างกัน
แต่ไม่ว่าเราจะเป็นใครมาจากไหน สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับความสำเร็จคือ มันเป็นสิ่งที่เราโหยหานะครับ "


แม้ว่าเค้าจะสรุปมาแบบนี้ แต่เราก็อยากรู้จริงๆว่า ศิลปินวัย 23 นี้ที่มีความโดงดังทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลี
ว่า สำหรับเค้าแล้ว ความสำเร็จคืออะไรแน่ เค้าฟังด้วยรอยยิ้มอายๆเปื้อนบนใบหน้าและกล่าวว่า

" ผมคิดว่ามันจะไม่เหมาะหรอกนะครับที่จะให้ผมจำกัดความเรื่องความสำเร็จทั้งๆที่ผมยังมีอายุน้อยและไม่เป็นผู้ใหญ่เลย
แต่ยังไงก็ดี ผมต้องการที่จะ สร้างอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ ออกมาเหมือนกับสิ่งที่ Beatles และ Rolling Stones ได้ทำมาก่อน
ผมต้องการที่จะมีผลต่อคนในรุ่นเดียวกัน เหมือนเป็น ผู้นำในยุคสมัยที่ผมอาศัยอยู่
ผมอยากจะให้ประวัติศาตร์จารึกว่านี่เป็นยุคของบิกแบง หรือนี่เป็นยุคสมัยของ ท็อป
ผมคิดว่านี่เป็นเป้าหมายที่ผมต้องการและโหยหามากที่สุดครับ "


ความฝันของเค้ายิ่งใหญ่มาก แต่เราดูจากกริยาท่าทางของเค้าแล้วเค้าไม่ใช่คนที่จะอวดตัว
ที่ญี่ปุ่น ถ้าเป็นไปได้แค่พาเค้าไปทาน ซูชิและให้เค้าซื้อตุ๊กตา bearbrick อีกซักตัว เค้าก็มีความสุขแล้ว
แทน ที่เราจะถามว่าเค้าชอบอะไรที่ญี่ปุ่น เราลองให้เค้าอธิบายวัยรุ่นญี่ปุ่นที่อยู่ในวัยเดียวกับเค้าออกมาดีกว่าว่า เค้าคิดว่าเป็นยังไง

"ผมไม่เคยได้นั่งพูดคุยกับศิลปินชาวญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งเลยนะครับ ถ้ามีโอกาสผมอยากจะพูดคุยเกี่ยวกับมุมมองทางด้านดนตรี
การแสดง และแผนในอนาคตครับ "


ไม่ว่าสิ่งที่เค้าจะได้ฟังจากศิลปินคนนั้นจะเป็นยังไง ??หรือเค้าจะพูดอะไร พอใจรึไม่?? ก็เป็นเรื่องของอนาคตแล้ว

Source: GOETHE Magazine + Scanned: As tagged
Chinese Translation: 肉肉@bigbangfamily.com
English Translation: Rice@BigbangWORLD
Thanks to Kixvix and bigbang update
Thai Translation by undercover @ VIPP @ Choitopthailand


 Reduced: 78% of original size [ 650 x 445 ] - Click to view full image

0 comments:

แสดงความคิดเห็น