Flag Counter

free counters

วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

[Trans] สัมภาษณ์ Bigbang จากนิตยสาร With Japan ( Daesung's Part)



เกิด วันที่ 26 เมษายน ปี 1989 เลือดกรุ๊ป 0 เสียงแหบห้าวของเค้าทำให้เค้ากลายเป็นนักร้องที่มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์คน นึง เค้าได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากการเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ลงตัวที่สุดใน รายการโทรทัศน์ของเกาหลีจากรายการ Family outig และยังมีส่วนร่วมแสดงในละครเพลง เรื่อง CATS และละครทีวีเรื่อง what's up เค้ามักจะมีรอยยิ้มเสมอและมักจะมีอารมณ์ที่ทำให้คนอื่นสดชื่นมีกำลังใจ ในปี 2008 เค้าได้ร้องเพลง Trot และออกอัลบั้มเดี่ยว ทำให้เค้ากลายเป็นหัวข้อการพูดคุยที่ร้อนแรง


คำถาม Q&A เรื่องความรัก

Q: คุณจะกลายเป็นคนแบบไหนเมื่อคุณตกหลุมรักใครซักคน ??
ถ้า เราพูดถึงเรื่องการตกหลุมรัก ผมมักจะเป็นประเภทที่จะตกลงไปในห้วงรักอย่างเต็มที่จริงจังเลยครับ(ยิ้ม) แน่นอนว่าผมก็ย่อมหวังว่าการงานกับความรักนั้นจะสามารถไปด้วยกันได้ ผมจะมีนิสัยอย่างนึงคือเป็นคนที่จะตั้งสมาธิอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เพียง สิ่งเดียวเท่านั้น มันเลยจะทำให้ผมไม่สามารถจะจัดแจงความรักให้เหมาะสมได้ พูดง่ายๆคือ มันจะเป็นการลำบากกับผมที่จะคบหาใครซักคนในตอนนี้ครับ

Q: คุณคิดยังไงกับการเหลือช่องว่างระหว่างคุณกับคนที่คุณชอบเอาไว้บ้าง??
ห่าง ซัก 100 เมตร เมื่อมีความรักครับ โดยไม่ต้องไปคิดว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะยาวนานไปได้ซักแค่ไหน และมันคงไม่ดีเท่าไหร่หากจะไม่มีเรื่องราวความทุกข์เข้ามาเกี่ยวข้องเลย แน่นอนว่า ความเข้าใจในกันและกันและรู้ในกันและกันนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
แต่ถ้าไม่มีความทุกข์ความเศร้าเลย เราก็จะเบื่อกันและกันอย่างรวดเร็วนะครับ

Q: คุณคิดยังไงกับการแต่งงานในตอนนี้??
การ แต่งงานก็เป็นผลิตผลของความรักนะครับ มันต่างจากการออกเดท เพราะมันสำคัญมากที่จะต้องเข้าใจกันและกันอย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะ จากใจถึงใจเลยทีเดียว ถ้าผมเจอคนแบบนั้นเมื่อไหร่ ผมจะรีบแต่งงานกับเธอทันที ผมสบายๆอยู่แล้วถ้าจะเจอเธอหลังจากนี้ 5 นาทีก็ โอเคฮะ (ยิ้ม)


D-Lite
* เป็นเพราะเค้าเคยมีประสบการณ์ในการสิ้นหวัง เค้าถึงได้กลายเป็นคนที่มีความสุขในตอนนี้
* แรงผลักดันจากคุณพ่อคุณแม่และคุณครู เป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับเค้าเสมอ
* เค้ามักจะรอคอยความสุขอยู่เสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะ Dlite เคยประสบกับเรื่องเศร้ามาก่อน

"เมื่อ ปีที่แล้วผมประสบอุบัติเหตุครับและต้องพักกว่า 2 เดือน ผมสูญเสียเสียงของผม การร้องเพลงเป็นอะไรที่ผมรักที่จะทำอย่างมากดังนั้นการที่ไม่สามารถร้องเพลง ได้มันทำให้ผมทรมานมาก ถ้าผมไม่สามารถที่จะร้องเพลงได้ในตอนนี้ ผมจะอยู่ได้อย่างไร?? คิดถึงเรื่องนั้นแล้วมันทำให้ผมเศร้า แต่ผมก็ไม่สามารถคิดในแง่ลบๆได้ตลอดเวลา คุณพ่อคุณแม่และคุณหมอต่างก็บอกว่า " ถ้าพักผ่อนเยอะๆ ก็จะหายเป็นปกติ" หลังจากได้ยินแบบนั้นผมจึงยอมพักผ่อน "

โชคดีที่เค้าสามารถกลับมาร้องเพลงได้อีกครั้ง
" สภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิตในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นสำคัญกับผมอย่างมาก ในช่วงสองเดือนนั้น ผมเผชิญหน้ากับความฝันของผม และผมก็เข้าใจความหมายของคำว่า "ชีวิต" อย่างถ่องแท้ ต้องเป็นพระเจ้าแน่ๆที่ได้มอบช่วงเวลาที่สำคัญแบบนั้นให้กับผม ( ยิ้ม) ตอนนี้ หากผมมองไปที่บาดแผลที่ได้รับมาจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ผมจะคิดว่าไม่ว่าบาดแผลนี้จะลึกแค่ไหน ผมก็จะต้องทำงานอย่างหนัก มันเป็นบาดแผลที่สำคัญมากสำหรับผม "

ในตอนที่เค้าเล่าเรื่องนี้ เค้ายิ้ม ยิ้มที่เป็นสัญลักษณ์ของเค้า
" ผมมักจะยิ้มครับ บางทีอาจจะเป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่มักจะสอนให้ผมใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ มันเหมือนกับเป็นการล้างสมองผมนะครับ (ยิ้ม) ตอนที่ผมอยู่ชั้นมัธยม คุณครูมักจะบอกกับผมว่า " ให้ตัวเองได้ประสบกับความเจ็บปวดเถอะ " ผมคิดว่านี่มันกลายเป็นคำที่มีอิทธิพลอย่างมากกับตัวผมในตอนนี้ ถ้าทางเดินข้างหน้าจะไม่เรียบ ก็ปล่อยให้ผมได้มีประสบการณ์ที่จะเจ็บปวดที่จะทุกข์สาหัส เพราะมันจะช่วยให้ผมเดินไปข้างหน้าได้อย่างมองโลกในแง่บวกมากขึ้น ประโยคสองประโยคนี้เป็นตัวส่งเสริมผมจนถึงตอนนี้เลยครับ"



บิกแบงผู้ซึ่งรอคอยที่จะเริ่มเดบิวที่ญี่ปุ่นและสามารถทำได้เมื่อปีที่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ Dlite มีความคิดว่า

" อุตสาหกรรมเพลงญี่ปุ่นนั้นพัฒนาไปมากและมุ่งไปทางความรู้สึกที่แท้จริงมาก ขึ้น และเป็นเพราะแบบนี้ ยิ่งเราเข้าไปทำงานกับมันมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าในตอนแรกเราจะรู้สึกไม่มั่นคงและประหม่ากันมาก ผมหวังว่าหลังจากที่เราเคยชินกับมันแล้วเราจะมีโอกาสปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน มากขึ้น (ยิ้ม) ผมหวังว่าเราจะได้ออกอากาศสดและแสดงบนเวทีมากขึ้นเพื่อพบปะกับแฟนๆหรือคนที่ ยังไม่รู้จักเราครับ"

" ผมอยากจะเป็นคนที่สามารถมีความสุขได้ แม้ว่าเวลาในการสำรวจนั้นจะสั้นก็ตาม เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ ผมต้องการที่จะท้าทายลองงานไม่เพียงแต่งานดนตรีเท่านั้นแต่ในงานด้านอื่นๆ อีกด้วย ผมต้องการที่จะให้คนอื่นได้เห็นด้านที่แตกต่างออกไปจากผม ผมต้องการที่จะเติบโตเป็นศิลปิน "

เพื่ออนาคตข้างหน้าสิ่งที่จะต้องทำในตอนนี้คือ???

สิ่ง ที่สำคัญที่สุดคือ สิ่งที่ผูกมัดพวกเราทั้งห้าคนเอาไว้ครับ บิกแบงที่กำลังโด่งดังในขณะนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากคนห้าคนที่ผูกพันกัน เราต่างก็คนก็ต่างผ่านการทำงานของตัวเองภายใต้ความคิดนี้ในใจ นอกจากนี้ความโด่งดังในญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่สำคัญด้วยเช่นกัน(ยิ้ม) แม้ว่าตอนนี้ความโด่งดังโดยรวมๆแล้วก็ขยายมาเล็กน้อย แต่ผมต้องการที่จะให้คนรู้จักเราเยอะๆ ดังนั้นความโด่งดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นครับ


Japan to Chinese translation by sophiell @ dsholic.com
Chinese to English translation by J-Lene @ www.bigbangupdates.com
English to thai Translation by undercover @ VIPP @ Choitopthailand
Scans by Tisya @ www.bigbangupdates.com

0 comments:

แสดงความคิดเห็น