Flag Counter

free counters

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

[Trans] G-Dragon Shine a light Making book#4

G-Dragon Shine a light Making book
 
 


ตอนที่พวกเราทุกคนมาถึงที่สเตเดี่ยวเพื่อเตรียมการซ้อม
จียงกวาดสายตามองไปรอบๆที่นั่งที่ว่างเปล่าและตกอยู่ในความเงียบ
แม้แต่ฉันยังรู้สึกค่อนข้างโดดเดี่ยวทุกครั้งที่มองไปที่ฮอลล์คอนเสิร์ตที่ปราศจากผู้คนแบบนี้
น่าสงสัยว่าจียงกำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนั้น?
 
 


ทันทีที่ได้รับโอกาสหยุดพักเหนื่อยสั้นๆ จียงจะนอนลงกับพื้น
เขาแร็ปขณะที่กำลังนวดขาตัวเองไปด้วยเหมือนเด็กบ้าๆบอๆ
"ตอนที่ผมไม่มีเงิน ผมกลับบ้านและทำ bindaeddeok* ด้วยตัวเอง~" (*คล้ายๆพิซซ่าเกาหลี)
ไมโครโฟนในมือจียงถูกทำขึ้นมาแบบพิเศษเพื่อให้เข้ากับสีธีมหลักของคอนเสิร์ตนี้ ซึ่งคือสีขาวและแดง
วิศวะกรคยองจุนต้องไปซื้ออุปกรณ์และทำมันขึ้นมาด้วยตัวเอง ตามคำขอของจียง
 



อากาศดูอึมครึมขึ้นมาทันที ใบหน้าของจียงกำลังสื่อความรู้สึกออกมามากมายเมื่อได้ดูภาพวิดีโอการซ้อม
แม้ว่าทุกอย่างจะดูสมบูรณ์ในสายตาของคนอื่น แต่ข้อพกพร่องเล็กๆก็ยังไม่สามารถรอดพ้นสายตาของจียงไปได้
ทุกๆคนมองจียงในความเงียบ รอคอยและสงสัยว่าตรงไหนกันที่ผิดพลาด
จียงค่อนๆแจงรายละเอียดทีละจุดและแนะนำวิธีแก้ไข
ฉันรู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นนักเรียนที่กำลังถูกติเตียนโดยคุณครูยังไงอย่างงั้น
ฉันรู้ว่าฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนี้ในฐานะคนนอก
อันที่จริงปัญหาอาจจะแค่ทำให้เกิดความแตกต่างกันใน 1 หรือ 2 วินาทีเท่านั้นเอง
แต่มันก็ทั้งน่าประหลาดใจและก็น่ากลัวจริงๆที่จียงสังเกตและตรวจสอบสิ่งเล็กๆเหล่านี้
การที่เขาถูกเรียกว่า 'Crazy perfectionist' ไม่ใช่ใช่เรื่องโกหกเลย
"ผมรู้ว่ามันยาก แต่ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบจริงๆ ทุกอย่างๆ..."
 


ใบหน้าของเขาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ในตอนนี้ ฉันจึงแอบกังวลว่าจียงกำลังคิดมากเรื่องอะไรอยู่รึเปล่า
แต่ทันใดนั้นเองจียงก็ลงไปหัวเราะกับพื้นหลังจากมองไปที่หน้าจอ
อะไรที่ทำให้เขาหัวเราะขนาดนั้นกันนะ?
จียงกลายเป็นเหมือนเด็กซนๆคนนึงไปเลย
ฉันชักจะสงสัยจริงๆแล้วว่านี่เป็นคนเดียวกับเจ้าของใบหน้าไร้อารมณ์เมื่อสองสามวินาทีที่แล้วรึเปล่า
ฉันหันไปมองที่หน้าจอบ้างด้วยความแปลกใจ
และภาพที่เห็นก็คือวิดีโอของจียงที่กำลังแร็ปอย่างกระตือรือร้นเมื่อตอนเด็ก
(คุณอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพูดมากนัก แต่ ใช่ เขายังคงแร็ป)
ในเพลง ‘Angel with Lost Wings’
จียงหัวเราะขณะที่ดูตัวเองในวัยเด็ก
จนในที่สุดก็ต้องเอามือปิดหน้า แล้วล้มตัวลงนั่งที่พื้นราวกับทนกับความอับอายไม่ได้แล้ว
เขาดูอายมากเลยนะเนี่ย
จียงส่งเสียงเอะอะนิดหน่อยหลังจากหยุดหัวเราะได้แล้ว เขาพูดกลัวหัวเราะว่า
"พวกเขาไปหามันมาจากไหนอะ? ถามจริงๆนะ ไปหามันมาได้ไงเนี่ย?"
น่าสงสัย... มันดูเหมือนเป็นวิดีสักประมาณเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ฉันเองอยากรู้มากว่าพวกเขาไปหาวิดีโอนี้มาจากไหนกันนะ
ในวิดีโอ มีใครบางคนถามคำถามนึงกับจียง
"โตขึ้นไปนายอยากจะเป็นอะไร จียง?"
จากนั้นจียงก็รับไมค์ที่ใหญ่เกือบเท่าครึ่งหน้าของเขามาถือในสองมือ ตอบคำถามเสียงใส
"อยากเป็นแร็ปเปอร์เก่งๆ..."
ตอนนี้ความฝันนั้นของนายเป็นจริงแล้วนะ จียงน้อย!
 
 


มาใช้เวลาสักหนึ่งวินาทีที่นี่เพื่อมองดูและเปรียบเทียบจียงตัวน้อยกับจียงในวันนี้กันเถอะ
 
 
 
"ถ้าผมย้ายจากนี่มานี่แบบนี้ มันจะอันตรายเกินไปมั้ย?"
"แล้วอันนี้ล่ะ?"
"นั่นก็ไม่เป็นไร แต่มันจะดีกว่ามั้ยถ้าย้ายมาแบบนี้?"

จียงตรวจเช็ครูปแบบของเวที รวมถึงแสง เสียง วิดีโอและสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์
พวกเรายังคงเห็นจียงใช้เวลาอยู่กับผู้กำกับในแต่ละฝ่าย และเสนอความเห็นเพื่อการแสดงที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากคำถามและคำตอบที่นับไม่ถ้วนแล้ว ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันไม่อาจละสายตาจากจียงไปได้
"แต่ถ้าพวกเราทำแบบนั้น แฟนๆที่อยู่ด้านนี้จะมองเห็นไม่ชัดนะ?"
การได้เห็นความวิตกกังวลเพื่อแฟนคลับของเขา เป็นความประทับใจที่สุดแล้ว
ฉันแน่ใจว่าเขากำลังทำมันเพื่อตัวเอง แต่การเห็นจียงคำนึงถึงความรักของแฟนๆเป็นอันดับแรก
ช่างเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากกว่าเรื่องใดทั้งหมด
 
 


การซ้อมใครจะจบลงแล้ว เราได้เห็นใบหน้าจริงใจของจียงอีกครั้ง
การได้เห็นเขานั่งอยู่ตรงนั้นและจ้องมองไปที่เวทีอย่างเงียบๆ
ทำให้ฉันรู้สึกทั้งภูมิใจและสงสารเขาไปในเวลาเดียวกัน
ฉันรู้ว่าจียงกำลังเจอกับช่วงเวลาที่ยากที่สุดกับการทำคอนเสิร์ตครั้งนี้
แต่เขาก็ไม่เคยแสดงความรู้สึกตรงนั้นออกมา ซ้ำยังให้กำลังใจสต๊าฟทุกๆคนอยู่เสมอ
มันเป็นแรงกระตุ้นอย่างดีเมื่อได้เห็นความเป็นผู้ใหญ่เกินอายุของจียง
 
 


"จียง พักสัก 10 นาทีไหม?"
"ไม่เป็นไรครับ ผมไหว"

การซ้อมผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่จียงยังดูไม่เหนื่อยเลย
ทีมงานจำนวนมากก็ยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อคอนเสิร์ตของจียง
และตัวจียงเองก็น่าจะกำลังมีช่วงเวลาที่หนักกับการต้องตัดสินใจและเตรียมพร้อมทุกๆอย่างด้วยเช่นกัน
ในฐานะ G-Dragon ศิลปินเดี่ยว ไม่ใช่หนึ่งในสมาชิกทั้งห้าคนของบิ๊กแบง
ฉันสงสัยว่า มันจะดูเป็นยังไงนะถ้าได้ยืนคนเดียวบนเวทีต่อหน้าผู้คนเป็นหมื่น
ไม่ใช่การยืนร่วมกับอีกสมาชิกทั้ง 4 คนเหมือนทุกครั้ง
แต่จริงๆเลยนะ ฉันอยากรู้ว่ามันจะรู้สึกยังไงที่ต้องแสดงคนเดียวบนเวทีที่ใหญ่แบบนี้
ฉันแอบย่องขึ้นไปบนเวทีหลังจากที่จียงลงไปคุยกับทีมงานอีกครั้ง
การเผชิญหน้ากับผู้ชมทุกคนในสภาพนี้...
ในที่สุดก็พบว่าตัวเองวิ่งจากเวทีมาข้างหลังทั้งที่ยังไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ
มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับฉัน
ฉันรู้สึกนับถือจียงขึ้นมาทันที... ผู้ที่ต้องยืนอยู่ตรงจุดนั้นบนเวที
จียง นายบอกว่านายขี้อาย... โกหกทั้งเพเลย
 
 


เพราะการซ้อมดำเนินมาสายจนถึงกลางดึกแล้ว ทีมงานทุกคนเริ่มดูเหนื่อล้าขึ้นมา
ฉันหมายถึง ตัวเองฉันเองที่แค่นั่งอยู่ที่นี่สบายๆแล้วดูทุกๆคนทำงาน ยังรู้สึกเหนื่อยเลย
แล้วทุกๆคนที่ทำงานหนักขนาดนั้นมาตลอดวันจะต้องเหนื่อยขนาดไหนกันนะ
สักพัก พวกเราก็ได้ยินเสียงของจียงดังขึ้นมา
"ทุกคนอย่าเพิ่งท้อนะ! พวกเราใกล้เสร็จแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างครับ!"
ทุกๆคนหัวเราะเบาๆให้กับความน่ารักของเขา และตั้งใจทำงานต่อไปราวกับไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
ถ้านายยิ้ม และพูดกับทีมงานแบบนั้น จะไม่มีใครสามารถบ่นนายได้เลย จียง
 
 


ทาด๊า! จำใบหน้าคุ้นๆนี้กันได้ไหม นี่คือ Se7en! เขายังดูเท่เหมือนเคย
"ได้มีส่วนร่วมอย่างไรในคอนเสิร์ตจียงบ้างคะ?"
"ผมรู้จักจียงมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กฝึกหัดตัวเล็กๆ
และเห็นเขาเติบโตจนกลายมาเป็น G-Dragon เหมือนในทุกวันนี้ จียงก็เป็นรุ่นน้องที่สำคัญกับผมมาก
ดังนั้นผมจึงมีความสุขและภูมิใจมากจริงๆที่ได้มาช่วยเขาในคอนเสิร์ตเดี่ยวนี้!"

"คุณรู้จักจียงมานานแล้ว เขาเป็นคนแบบไหนกันคะ?"
"มันประมาณ 10 ปีแล้วนะที่ผมรู้จักกับไง ไม่ว่าจะในฐานะลีดเดอร์ของบิ๊กแบงหรือศิลปินเดี่ยวอย่างตอนนี้
จียงยังคงเหมือนเดิมในเรื่องความพยายาม และชอบทำอะไรใหม่ๆ
เขาเป็นรุ่นน้องที่เต็มไปด้วยคุณภาพและความสามารถมาก"

 
 


เกิดเรื่องโกลาหลขึ้นมาทันที
มีเด็กผู้หญิงกลุ่มนึงวิ่งเข้ามาข้างในพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง
ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอชนะกิจกรรมอะไรบางอย่าง และได้รับโอกาสเข้ามาดูการซ้อมครั้งนี้
พวกเธอดูตื่นเต้นมาก และกรี๊ดเหมือนกับจะไม่มีวันพรุ่งนี้อะไรอย่างนั้นตอนที่จียงขึ้นไปตรวจเวทีอีกครั้ง
จียงได้ยินเสียงพวกเธอและวิ่งลงมาจากเวทีมาที่ๆทุกคนยืนอยู่และทักทายทุกๆคนแบบตาต่อตา
กลุ่มเด็กผู้หญิงต่างกระโดดไปมาด้วยความตื่นเต้น ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมา นั่นดูน่ารักมากเลย
"(น้ำเสียงกังวล) วันนี้หนาวมากๆเลยใช่มั้ย?"
"ช่ายยยย!"

"ทุกอย่างที่เห็นวันนี้ต้องเป็นความรับนะ โอเค?"
"โอเค!!"

จียงดำเนินการซ้อมต่อไป และยืนอยู่ในที่ๆแฟนสามารถเห็นเค้าได้ชัดเจน
เขาซ้อมการแสดงต่อหน้าแฟนๆ ที่กำลังมองเขาด้วยสายตาเป็นประกาย
ฉันไม่เคยเห็นเขาสดใสแบบนี้มาก่อนเลย
 
 


แดซองแลซึงริกำลังดูการซ้อมรอบสุดท้าย
ใบหน้าที่ดูซีเรียสของพวกเขาดูเหมือนพวกเขาจะรู้สึกกังวลกว่าจียงซะอีก
"จียงเป็นคนยังไงสำหรับพวกคุณทั้งสองคน?"
แดซอง : "สมบูรณ์แบบ! พี่จียงคอยให้คำแนะนำกับพวกเราเสมอผมจึงได้เรียนรู้อะไรจากเขาเยอะครับ
และพี่จียงก็เป็น Heartbreaker ตัวจริง! กิจกรรมเดี่ยวของเขาเจ๋งมาก
พี่เขาเป็นศิลปินที่น่าทึ่งที่แฟนๆและสมาชิกทุกคนรวมถึงผมด้วยสามารถเชื่อถือในตัวพี่เค้าได้ครับ!"

ซึงริ : "ผมคิดว่าพี่เค้าเป็นคนที่อยากให้ตัวเองได้สัมผัสกับอารมณ์หลากหลายแบบที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความเศร้า หรืออะไรก็ตาม พี่เขาเหงามากถึงแม้ว่าจะไม่ดูไม่ค่อยเป็นอย่างนั้นก็เถอะ
นอกจากเสน่ห์เวลาที่เขาเป็น G-Dragon พี่เค้ายังเป็นคนที่ชอบทำให้คนอื่นหัวเราะ และทำให้ทุกคนมีความสุข
และเขาก็ชอบจะทำอะไรที่แตกต่างจากคนอื่นในทุกๆอย่างที่เขาทำ
เขามีความเป็นผู้นำที่น่าเหลือเชื่อมาก และดูจะช่ำชองไปหมดซะทุกเรื่องเลย
บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาเป็นเด็กฝึกหัดมานานก็ได้
พี่จียงเป็นพี่ที่ผมสามารถเรียนรู้อะไรมากมายได้จากเขาเสมอครับ"

 
 


 
TOP : ไม่ว่าใครจะพูดอะไร แต่ความมุ่งมั่นไม่เคยโกหก นั่นแหละคือ Shine a Light
 
 
 
Scans by: DaragonHideout
Translated by: sjay.x @ BBVIP
Thai-Translation : pphelpz.exteen.com / @pphelpz

0 comments:

แสดงความคิดเห็น