Flag Counter

free counters

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

[Trans] G-Dragon Shine a light Making book#1

G-Dragon Shine a light Making book
 

 

"หือ? ยังไม่ถึงเวลานี่ ใช่มั้ยคะ?"
"(ยิ้ม) ครับ..."

ในวันที่มีการประชุมครั้งแรก ฉันพยายามที่จะไปถึงเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้เพื่อเตรียมตัวเองล่วงหน้า
แต่คนแรกที่ฉันเห็นกลับเป็นจียง ตอนนั้นยังไม่ถึงเวลาประชุม แต่เขาอยู่ที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว
เพราะว่าเขาเป็นศิลปิน ฉันจึงคิดว่าว่าเขาต้องมาสายแน่ๆ
ฉันรู้สึกแย่ไปเลยกับการเข้าใจผิดอย่างไร้เหตุผลในเรื่องนี้
 
 

อีกอย่างที่ทำให้ฉันประหลาดใจ
ก็คือการเห็นจียงเสนอความคิดเห็นตลอดเวลาระหว่างการประชุมกับหัวหน้าฝ่ายต่างๆ
ฉันเคยคิดว่าการประชุมแบบนี้จะต้องดำเนินโดยท่านประธานยาง
แต่ความกระตือรือร้นของจียงในการแลกเปลี่ยนไอเดียและความคิดเห็นกับทุกๆคน ทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่มาก
เขาคิดทุกๆเรื่องไม่ว่าจะเป็น แสง เสียง เวที ท่าเต้น สเปเชี่ยลเอฟเฟค
จียงยังคงคุยในเรื่องเหล่านี้ และเรื่องอื่นๆ ต่อไปเรื่อยๆ ตลอดการประชุม
คุณจะรู้สึกได้เลยถึงความมุ่นมั่นของจียงที่มีต่อคอนเสิร์ตครั้งนี้
การประชุมใช้เวลาพักใหญ่ๆ แต่จียงก็ไม่ดูเหนื่อยแม้แต่น้อย
บางทีวลีที่ว่า 'Firing away' อาจจะถูกใช้ในสถานการณ์แบบนี้ก็ได้?
 
 

มีอีก 2 สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจมากระหว่างมองดูเขาระหว่างการประชุม
อย่างแรกก็คือ การบันทึกสิ่งที่คุยกันในที่ประชุมของจียง
ตอนที่ฉันเปรียบเทียบสมุดของฉัน(ที่ฉันอ่านมันไม่ออกด้วยซ้ำ)กับของจียง
มันทำให้ฉันอยากจะปิดสมุดของตัวเองลงไปเลย
เขาเขียนเนื้อหาสาระจากการประชุมอย่างเป็นระเบียบและชัดเจน
ฉันแปลกใจมากที่การประชุมอันยาวนานแบบนี้จะสามารถสรุปทั้งหมดลงไปในกระดาษหน้าเดียวได้ยังไง
ฉันเคยได้ยินว่าเขาเป็นพวกเพอร์เฟคชั่นนิส และแม้แต่การเขียนของเขา ก็ยังต้องเพอร์เฟคเช่นกัน
"เอ่อ...ฉันขอดูได้มั้ย?"
จียงหัวเราะเบาๆ แล้วส่งสมุดของเขามาให้ฉันโดยปราศจาคคำพูดใดๆ

 
 

พวกเขาตัดสินใจว่าจะไปขอร้อง คิมกึนโม ผู้ที่ฟีทเจอริ่งในเพลง Gossip Man เพื่อถ่ายวีดีโอนี้
แต่โชคร้ายที่คุณคิมกึนโมไม่สามารถมาถ่ายได้เพราะเขาติดคอนเสิร์ตของตัวเอง
จียงหารือกับประธานยาง เขาขอให้จียงทำมันด้วยตัวเอง
พูดความจริงเลยนะ ฉันกังวลจริงๆว่ามันจะเหมาะกับลุคของจียงมั้ย และเขาอยากทำมันจริงๆรึเปล่า
แต่ผิดคาด จียงรีบวิ่งออกไปเพื่อหาชุดและเครื่องประดับสไตล์เรกเก้ให้ตัวเอง
เขากลับมาพร้อมกับหมวก สูทสีแดง และแว่นตาตลกๆ อีกหนึ่งอัน
มีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าเขาไปเอาของเหล่านั้นมาจากไหนกันแน่!
จียงซ้อมหนักมาก แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ยังทำให้ทีมงานหยุดหัวเราะไม่ได้
เวลาที่ทุกคนมองเขาทำท่าทางและหน้าตาเลียนแบบคิมกึนโมในมอนิเตอร์
 
 

"อะไรนะ ไฟไหม้?"
ทีมงานที่รับผิดชอบในคอนเสิร์ตครั้งนี้เริ่มหน้าซีดทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น
ทุกคนต่างสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นและรอฟังอย่างเงียบๆจนกระทั่งวางสาย
"ไฟฟ้าลัดวงจร... กองถ่ายเสียหาย..."
ใบหน้าของทุกคนขาวซีดขึ้นมาทันที
ฉันรู้ว่าจียงจะต้องมีอาการแบบเดียวกันแน่นอน
เขาต้องจัดการคอนเสิร์ตของตัวเองไปพร้อมๆกับกิจกรรมที่ญี่ปุ่น
ความกดดันจากเวลาที่มีไม่มากนัก ถ้าการถ่ายทำต้องถูกเลื่อนออกไปในสถานการณ์แบบนี้
มันจะต้องส่งผลต่อตารางงานของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ทุกคนต้องยุ่งอยู่กันอีกครั้งกับการปรับเปลี่ยนแผนการของพวกเขา
ตารางงานที่ได้ออกมานั้นแน่นมาก แต่ก็ยังบอกฉันว่าพวกเขายังโชคดีที่ยังมีเวลาพอที่จะถ่ายทำ
 
 


มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในวันที่สองของการถ่ายทำที่ถูกเลื่อนออกมาเพราะไฟไหม้
จียงเพิ่งจัดสรรเวลาของตัวเองได้ จากตารางงานที่แน่นเอี๊ยด ดังนั้นทุกๆคนจึงดูเคร่งเครียดมากกว่าปกติ

แต่ทั้งทีมงานที่กำลังรอคอยการถ่ายทำหลังจากจัดเตรียมกองถ่ายเสร็จแล้ว
และทีมงานญี่ปุ่นที่เพิ่งมาถึง ต่างก็มีใบหน้าวิตกกังวลและเป็นห่วง
"จียงบอกว่าเขาเจ็บคอแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว..."
ใช่แล้ว... จียงอดทนกับความเจ็บปวดนี้มาตลอดคืน
 
13 - 14


"ยกเลิกกองวันนี้ แล้วดูแลจียง"
แม้ว่าทีมงานทุกคนตอบตกลงกับท่านประธานยางทันที่ที่เขาพูดประโยคยั้นผ่านทางโทรศัพท์
แต่ก็ต้องถอนหายใจในเวลาเดียวกัน พวกเขากังวลเกี่ยวกับการป่วยของจียงพอๆกับตารางงานที่จัดไว้เช่นกัน
"จียง ยกเลิกกองวันนี้ไปก่อนวันนี้แล้วพักซะนะ"
"......"
"มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่นายจะถ่ายในสภาพนี้ กลับบ้านแล้วนอนพักซะ โอเคมั้ย?"
"....ผมอยากถ่าย ถ้าผมไม่ถ่ายวันนี้แล้วที่เหลือล่ะ..."
"ไม่ได้ มันไม่เป็นไร อย่าเครียดไปเลย กลับบ้านเถอะ"
"ผมบอกว่าผมอยากถ่ายไง...ขอแค่ช็อคโกแลตก็พอ"

บางทีอาจจะเป็นเพราะหมอเคยแนะนำให้เขากินช็อคโกแลตบ้าง
จียงไม่ชอบของหวานเลย แต่ตอนนี้เขากำลังถามถึงช็อคโกแลต
ทีมงานทุกคนไม่มีคำพูดใดๆเปล่งออกมาและแค่ยืนอยู่ตรงนั้น รอบๆเขา
จากนั้นจียงก็แสร้งทำเป็นสบายดีและพูดว่า
"มาเลย! ผมสบายดีแล้ว จริงๆนะ ผมไม่เป็นไรหรอกครับ"
ทุกคนต่างรู้สึกแย่พร้อมกับยินดีไปในเวลาเดียวกัน ทีมงานสองสามคนถึงกับร้องไห้ออกมา
ทุกคนมองเขาอย่างเป็นห่วงและกังวล
แต่จียงแค่ยิ้มอย่างสดใส และพยายามที่จะเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างฮึกหาญ
 



แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงอาการอะไร แต่แค่ยืนเฉยๆมันก็ยากสำหรับจียงแล้วในวันนั้น
จียงรู้สึกตาลายและเวียนหัว จนสุดท้ายแล้วก็ต้องเอนกายนอนลงที่เตียงเพื่อพักก่อนถ่ายทำอีกครั้ง
อาการของเขาดูเหมือนจะอยู่ในขั้นอันตรายแล้ว ไม่มีสต๊าฟคนใดไม่เป็นห่วงศิลปินคนนี้
เวลาที่เราป่วย มันก็เป็นธรรมดาไม่ใช่เหรอที่จะอยากหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ไม่ว่ามันจะเป็นงานหรืออะไรก็ตาม?
เขาไม่เคยพูดคำจำพวก 'ผมป่วย' หรือ 'ผมเหนื่อย'
แต่ตรงกันข้าม เขายังคอยพูดเรื่องตลกสร้างเสียงหัวเราะไปเรื่อยๆ
และยิ้มให้กับทีมงานทุกคนที่คอยเป็นห่วงเขา
ฉันตกหลุมรักเขา ใช่ ฉันคิดว่าฉันตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว
ฉันคิดเสมอว่าจียงจะต้องเย็นชา น่ากลัว และเข้าถึงยาก
แต่หลังจากเห็นจียงพยายามที่จะเทคแคร์สต๊าฟแต่ละคน ทำงานอย่างหนัก
และแม้จะมีไข้ 40 องศาก็จะไม่ทำให้ใครเป็นกังวล
หลังจากการเห็นความอ่อนโยนและบริสุทธิ์ในหัวใจของเขา...
ฉันคิดว่าฉันตกหลุมรักเขาแล้วจริงๆ
 

17 - 18


โจ๊ก ยา แล้วก็ช็อคโกแลต
ช็อคโกแลต โจ๊ก แล้วก็ยาอีกครั้ง
จียงบอกว่าช็อคโกแลตที่เขากินวันนั้นอาจจะมากเท่ากับที่เขาเคยกินรวมกันมาทั้งชีวิตก็ได้
แม้ว่าเขาจะป่วย แต่เขาก็ยังคงมองจอมอนิเตอร์อย่างรอบคอบ และถึงทุกคนจะคิดว่ามันดีพอแล้ว
แต่เขายังคงพูดว่า "ผมจะถ่ายอีกครั้งนึง ขอโทษด้วยนะครับ" และกลับไปแสดงอีกครั้ง
"จียงเป็นยังไงบ้าง?"
"เขากินยารึยัง?"
"ตอนนี้เขาโอเคมั้ย?"

ประธานยางเป็นกังวลเรื่องเขามาก และโทรมาหาทีมงานบ่อยๆเพื่อเช็คอาการ
เขาทำกระทั่งการนัดหมายกับโรงพยาบาลให้กับจียงทันทีที่ถ่ายทำเสร็จ
พอมาคิดถึงเรื่องนี้ดูแล้ว มันดูเป็นความห่วงใยที่สมาชิกในครอบครัวมีให้ต่อกันและกันจริงๆ
ฉันเคยคิดว่าคำว่า 'YG family' ไม่ได้มีความหมายพิเศษอะไร แต่พอได้มาเห็นมันด้วยตัวเองแบบนี้
พวกเขาดูเป็นพี่ชายคนนึงที่เป็นห่วงเป็นใยน้องชาย และน้องชายที่เชื่อฟังพี่ชาย
มากกว่าความสัมพันธ์ของประธานบริษัทกับนักร้องธรรมดา มันทำให้ฉันรู้สึกถึงคำว่า 'ครอบครัว' จริงๆ
สายใยที่มั่นคงของพวกเขาทำให้ฉันรู้สึกอิจฉาขึ้นมา...
 

Trans Credits: sjay.x @ BBVIP.net
Pictures: as tagged
Thai-Translation : pphelpz.exteen.com / @pphelpz

0 comments:

แสดงความคิดเห็น