Flag Counter

free counters

วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

[Trans] การผจญภัยของ Kanauru production ที่เกาหลี

คราวที่แล้ว เราได้โพสเรื่องราวของ Qui ที่เดินทางไปเกาหลีมาเล่าให้ฟังไปแล้ว คราวนี้เราได้เรื่องราวในแง่มุมที่ลึกกว่าจาก Richard มาเล่าให้ฟัง Richard และ qui ต่างก็เดินทางไปที่เกาหลีเมื่อเดือนที่แล้ว(มิถุนายน) เพื่อถ่ายทำ วีดีโอ Movement Lifestyle เราจะทำการโพสวีดีโอในเร็วๆนี้ ยังไงก็ตามแต่ Richard ตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวที่เค้าได้ไปพบ แทยัง บิกแบง เซเว่นและทูเอนี่วัน ในส่วนของเค้าบ้าง พร้อมทั้งมีรูปสวยๆมาให้ชมกันด้วย ขอบคุณนะริชาร์ด



สวัสดี ครับ ทุกคน ผม Ricahrd จาก Kanauru Productions ( งานกำกับ, งานตากล้อง,งานบรรณาธิการ และอื่นๆอีกมากมาย) ถ้าคุณไม่เคยรู้จักผมมาก่อนนั่นเป็นเพราะผมล่องหนนะครับ ยังไงก็ดี ขออธิบายให้เข้าใจกันก่อนว่า เราไม่ใช่กลุ่มแด็นเซอร์ แล้วเราก็ไม่ใช่กลุ่มของผู้ออกแบบท่าเต้น แต่เราเป็นทีมงานถ่ายทำวีดีโอ แต่เราก็มีเพื่อนของเราที่เต้นรำเพื่อความสนุกและเราก็จะถ่ายทำเพื่อนๆลงไป ในวีดีโอของเรา นอกจากนี้เราไม่ได้ทำงานกับ วายจี เราทำงานให้กับ Movement lifestyle ซึ่งคนกลุ่มนี้ถูกจ้างโดยวายจี เข้าใจกันนะครับ?? โอเค ผมเป็นพวกไม่ค่อยโพสเรื่องราวในบล็อคเท่าไหร่ แต่ถ้าผมเกิดโพสเมื่อไหร่ มันก็ยาวทีเดียว ผมจะพยายามเล่าในรายละเอียดให้มากที่สุดนะครับ แต่ก็จะพยายามไม่ให้มันยาวและใช้คำฟุ่มเฟือยจนเกินไป ดังนั้นทนหน่อยนะครับ ถึงแม้ว่ามันจะมีเรื่องของแทยังและเรื่องอื่นๆเยอะมากด้วยเหมือนกันก็ตาม

เกริ่นนำ -

ผมยังจำบทสนทนาที่ผมเคยคุยกับ Shaun เอาไว้ได้อยู่เลยนะฮะ จริงๆผมจดบันทึกเอาไว้เลยแหละ

2 กุมภาพันธ์ 2010

shaun: ผมก็พาเธอไปเกาหลีกับผมด้วยนะ
richard: ดีจังเลย.
richard: บางทีคราวหน้าพาผมไปบ้างสิ 55555
shaun: มันคงจะเยี่ยมมากเลยนะ
shaun: เอางี้ถ้าผมจะไปอีก ผมจะหาทางให้เอง
shaun: คุณก็เป็นหนึ่งในทีมถ่ายทำของผมไง

ผมตื่นเต้นมากเลย แต่ก็พยายามทำใจสบายๆๆเอาไว้เพราะผมไม่อยากตั้งความหวังเอาไว้สูงเกินไป จากนั้น 6 เดือนต่อมาเค้าก็มาถามผมว่าผมจะไปเกาหลีกับเค้าได้ไม๊?? ขอโทษด้วยที่มาบอกเอาก่อนวันไปแค่อาทิตย์เดียวและทางเราก็ต้องออกค่าเครื่อง บินเองด้วย ค่อนข้างกะทันหันทีเดียว และเราก็ต้องตัดสินใจกันอย่างทันทีทันใด

เราต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเองซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างใหญ่ (เพราะมันแพงงงง)
แต่เราก็ตัดสินใจว่ามันเป็นเพียงโอกาสเดียวในชีวิตเราเลยตอบตกลงและคว้าโอกาสนี้ไว้



Day 00 / มาถึงแล้วเกาหลี

เรา ติดอยู่ในรถเท็กซี่พักใหญ่เลยทีเดียวเพราะคนขับเท้กซี่ของเราไม่รุ้ว่าตึก วายจีอยู่ตรงไหน เค้าเลยขับวนๆๆๆๆๆเป็นวงกลมและหยุดถามคนขับเท็กซี่คนอื่นไม่ก็ถามคนเดินถนน
และ แล้วเราก็มาถึงถนนที่มีกลุ่มสาวๆยืนอยู่กลางถนนเลยทีเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกเธอมาอยู่แถวๆบริษัทวายจีอย่างตั้งใจ ผมใช้เวลาซักพักถึงจะรู้ว่าพวกเธอเป็นแฟนๆที่มารอเผื่อว่าจะมีศิลปินที่ชื่น ชอบออกมาจากบริษัท
ผมรู้สึกแปลกใจนิดนึงที่ตึกวายจีไม่ได้อยู่ในย่านที่มีตึกหรูหราๆ แต่มันเหมือนกับเป็นตึกสำนักงานที่อยู่ท่ามกลางตึกที่ใช้อยู่อาศัย
Qui และผมได้เดินผ่านกลุ่มแฟนๆและเดินตรงไปที่ประตู ผมมั่นใจว่าพวกแฟนๆต้องสงสัยแน่ๆว่าผมเป็นใครเพราะผมนำเอากล้องออกมาติดตัว เอาไว้ด้วยและเราต่างเดินตรงไปที่ประตู 55555 พอมาถึงประตูกระจกเราก็เห็นลิฟท์เรืองแสงแสนสวยของวายจีที่ตอนนี้ปรากฏอยู่ ในMV ของค่ายวายจีมากมาย เราไม่มีเลขสมาชิกของ Shaun ด้วยดังนั้นเราจึงเข้าไปไม่ได้ Qui และ ผมพยายามใช้โทรศัพท์ที่หน้าตึกติดต่อกับเจ้าหน้าที่ภายในแต่ก็ไม่มีใครรับ สายเลย โชคดีที่ Shaun ออกมาเพราะมีเพื่อนคนนึงของเค้าก็เพิ่งมาถึงเช่นกัน ดังนั้นโชคดีจึงเป็นของเราที่เราได้เข้าไปในตึกเพราะเธอคนนั้น ในตอนนั้นเราก็ถูกแนะนำให้รู้จักกับ Jae ซึ่งเป็นคุณครูสอนเต้นประจำที่วายจี

เราลงไปชั้นล่างและเจอกับ ประตู 2 ประตู เขียนว่า YG Dance studio A และ B แต่ว่ามีกระดาษแปะอยู่ที่สตูดิโอ B เขียนอะไรซักอย่างเกี่ยวกับ 2NE1 ดังนั้นผมเลยเดาเอาว่า สตูดิโอ B จะใช้เป็นสตูดิโอของ 2NE1 เราเลยไปที่ Studio A และมองเข้าไปว่าใครอยู่ในนั้น และก็เป็นยองเบที่เราเห็น เค้ากำลังพักหลังจากที่เพิ่งซ้อมเสร็จไป เค้านั่งพิงลำโพงขนาดยักษ์ที่อยู่ข้างประตู แทนที่จะเข้าไปในห้อง เค้ากลับยื่นมือออกมาและยิ้มให้ Qui และผมก็ยื่นมือไปจับมือนั้น และนั่งอยู่ด้านหลังซึ่งตรงนี้เราได้ทักทายกับเซเว่นด้วย
ผมจำได้ว่าตอนที่จับมือกันเซเว่นแนะนำตัวว่า ผมเซเว่นครับ
ผมเลยพูดออกมาไปว่า เซเว่นเหรอ?? และเค้าก็ตอบกลับมาแบบเดิมว่า เซเว่นครับ?? (เค้าคงคิดว่าผมไม่รู้จักว่าเค้าเป็นใคร XD)
ที่ ผมถามไปเพราะผมเดานะว่าผมจำเค้าไม่ได้ (เพราะมันก็ได้พักนึงแล้วที่ผมดูงานของเค้า) และผมก็เดาว่าผมไม่อยากจะเชื่อว่าเค้าเป็นเซเว่นเพราะเค้าดูสบายๆๆและไม่ได้ ให้ออร่าที่เหมือนกับศิลปินชื่อดังออกมา

สำหรับความประทับใจแรกที่ ผมมีต่อยองเบ คือ ผมคิดกับตัวเองนะว่า เฮ้อ เค้าดูเท่มากเลยตอนไม่ได้โกนหนวดแบบนี้ จริงนะฮะ นั่นเป้นสิ่งแรกที่ผมคิดเลยจริงๆ แต่ที่น่าสนใจคือ ผมไม่ได้มีอาการตื่นดาราหรืออะไรเลยทั้งๆที่เค้าก็มีออร่าออกมาและเท่มากๆ เค้าเป็นมิตรมากและเป็นคนถ่อมตัวและไม่ทำตัวเป็นดาราใหญ่ ไม่ได้ดูข่มขวัญคนอื่นแต่ดูยินดีต้อนรับและมีเสน่ห์มากดังนั้นถึงแม้ว่าคุณ จะไม่รู้ว่าเค้าเป็นใครคุณก็จะยังชอบเค้าอยู่ดี แบบ เฮ้อ ฉันชอบคนนี้นะ ไม่ว่าเค้าจะยิ้มหรือกำลังยุ่ง มันช่วยไม่ได้ที่คุณจะต้องยิ้มตอบเค้าไป แบบอัติโนมัติเลย

ส่วนความประทับใจแรกในตัว เซเว่น ก็คล้ายๆกับยองเบ แต่ก็ยังมีที่แตกต่าง เพราะมันยังมีความรู้สึกถึงความเป็นผู้ใหญ่ในตัวของเซเว่น อย่าเข้าใจผิดหาว่าผมว่ายองเบว่าไม่รู้จักโตนะครับ แต่เซเว่นก็มีด้านที่ยังเป็นเด็กในตัวเค้าด้วยในแง่ดีนะครับ แต่เพราะเซเว่นโตกว่าและได้รับการฝึกมาก่อนและได้ชื่อว่าเป็นแม่แบบให้กับ ศิลปินมากมายเช่นบิกแบง จะว่าไปก็อธิบายยากนะฮะ กลับไปที่ตัวเซเว่นดีกว่า เค้าพูดภาษาอังกฤษด้วย ดังนั้นเราเลยรู้สึกดีมากที่มีคนให้สื่อสารด้วยตอนที่อยู่ที่สตูดิโอ และที่สำคัญเราจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในทริปนี้กับเค้าด้วย สรุปคือทั้งสองคน ยองเบและเซเว่นต่างก็เป็นมิตร และคอยถามคำถามเราด้วย




ส่วน ใหญ่เราก็นั่งเล่นไปเรื่อยๆดูยองเบแสดง ทีมงานของทางวายจีก็ได้ถ่ายทำบันทึกการแสดงนี้เอาไว้เป็นระยะๆๆ ดังนั้นที่คุณเห็นส่วนใหญ่ก็จะอยู่ รายการ Real sound มันเจ๋งมากๆเลยที่ได้มาดูเค้าแสดงสดๆแบบนี้




เค้า ทุ่มเท 100% เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเต้นหรือเรื่องร้องเพลง พวกเค้าถ่ายทำกันหลายครั้งดังนั้นมันต้องเหนื่อยมากแน่ๆนอน (โดยเฉพาะในเพลง Just a feeling ที่ใช้พลังงานมากกว่าเพลง i need a girl)แต่ดูเหมือนว่าอะไรก็มาฉุดให้เค้าช้าลงไม่ได้เลย แต่ผมรู้สึกแปลกใจมากที่เสียงของเค้ายังดีมากขึ้นไปอีกหลังจากที่มีการเต้น อย่างหนักแบบนั้น ก็นะ เค้าเป็นมืออาชีพนี่นา



สิ่ง นึงที่ผมค้นพบก็คือว่า ยองเบนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างตลกทีเดียว เค้าจะมีไมค์ลอยติดอยู่ด้วยตอนที่เค้าซ้อมดังนั้นไม่ว่าเค้าจะพูดหรือหายใจ มันก็จะดังออกมาทางลำโพง ตอนนั้นแทยังก็จะพูดเล่นหรือพูดเรื่องต่างๆผ่านทางไมด์ของเค้า ซึ่งหนึ่งอย่างที่ผมจำไม่รู้ลืมเลยคือ เค้าพูดว่า " ผมสัญญากับคุณได้เลย" มันกลายเป็นมุขประจำของแทยังในวันนั้น ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่น่าจะเริ่มตอนที่ Shaun บอกให้ยองเบทำอะไรซักอย่างนึงและยองเบก็ตอบกลับไปว่า "ผมสัญญา shaun" อะไรประมาณนั้น แต่ในจุดที่เค้าพูดคำว่า "ผมสัญญา" เค้าใช้เสียงที่จริงจังแต่คุณก็ยังจะได้ยินถึงเสียงฮาๆของเค้าซ่อนอยู่ เวลาที่เค้าพูดว่า "ผมสัญญา" ผมมั่นใจว่าสาวๆจะต้องชอบแน่ถ้าเค้าพูดประโยคนี้โดยตรงกับพวกเธอ น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถบันทึกเทปตอนที่เค้าพูดมาได้เพราะเค้าจะพูดออกมา เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บางครั้งเค้ายังตั้งใจหายใจแรงๆให้คนอื่นได้ยินด้วยออกมา 55555 ( ผมบันทึกมาได้ด้วยนะ :D) นอกจากนี้ยังมีบางตอนที่ Shaun ต้องการให้ยองเบหันหน้ามามองคนที่นั่งอยู่แทนที่จะหันไปทางกระจกด้วย



มัน เป็นอะไรที่อึดอัดนิดๆเพราะบางครั้งเค้าเต้นห่างออกไปจากหน้าเราเพียงแค่ 5 ฟุตเท่านั้น 555555 shaun ต้องการให้ยองเบแกล้งทำเป็นว่านี่เป็นการแสดงจริงๆและต้องสื่อสารทางสายตา กับผู้ชม ซึ่งก็คือเรา ดังนั้น ใช่แล้วฮะ มีการสื่อสารทางสายตาที่ค่อนข้างใกล้มากเลยทีเดียวตรงจุดนี้ 5555 ในที่สุดคือถึงช่วงเบรกอีกครั้ง และเค้าก็มาคุยกับเรานิดหน่อย และถาม Qui กับผมว่าเรามาจากไหน อายุเท่าไหร่ และสัญชาติอะไร



นอก จากนี้เรายังเป็นเพื่อนกับหนึ่งในแด็นเซอร์ของแทยัง ชื่อ Sol เพราะเค้าพูดภาษาอังกฤษดีทีเดียว (เค้าบอกว่าเค้าเรียนภาษาอังกฤษจากการดูรายการทีวี 55555) ในตอนที่เรียนออกเสียงชื่อเค้าผมคิดว่านี่มันวิเศษเหมือนกันนะ ผมคิดว่าพวกคุณส่วนมากคงรู้ว่าทำไม พวกคุณบางคนอาจจะจำเค้าได้เพราะเค้าเป็นหนึ่งในแด็นเซอร์ที่เต้นอยู่ใน MV เพลง Wedding Dress หลังจากนั้นผมก็ค่อนข้างเบลอๆๆแล้วเพราะมันก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วละ ยองเบได้ร้องเพลงพิเศษเพื่อใครคนนึง (ซึ่งคุณจะได้ฟังในวีดีโอ) เรายังได้เจอ Kush, Master Wu ( หรือบางทีอาจจะเจอในวันต่อมา) และศิลปินอีกสองสามคนหลังจากที่เราจะเดินทางออกมา ผมเชื่อว่ายองเบและทีมแด็นเซอร์ของเค้าไปปาร์ตี้กันในขณะที่พวกเรา Movement lifestyle ไปทานบาร์บิคิวกันครับ



Day 01 / MNET

และ แล้ววันแรกก็เริ่มต้นขึ้น วันแรกนี้ เราอยู่กับ Se7en และ Keone เกือบจะตลอดเวลา จนกระทั่งถึงเวลาที่เราต้องออกไปดูการแสดงของแทยังที่สถานนี Mnet

ตอน ที่เราไปถึงที่ ตึก Mnet ตรงนั้นก็มีเด็กผู้หญิงตั้งแถวอยู่ข้างนอกตึก ในตอนที่เข้าไปในตึกผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะ การตบแต่งภายในตึกนั้นสวยมากเลยฮะ และที่นั่นก็มีประตูเต็มไปหมด และแทบทุกประตูจะต้องใช้การ์ดเปิด ระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนามากตรงจุดนี้ (แต่มันน่ารำคาญมากๆๆๆๆถึงมากที่สุดเมื่อเราเพิ่งจะมารุ้ว่าในหมู่เราไม่มี ใครมีการ์ดเลยซักคน) เราถูกนำไปยังห้องที่ที่แด็นเซอร์และแทยังกำลังแต่งหน้าทำผมกันอยู่ Shaun บอกกับเราว่าอย่าเพิ่งไปยุ่งกับแทยังในเวลานั้นเพราะเค้าต้องการอยู่กับตัว เองเพื่อคิดและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแสดงดังนั้นเราเลยไปที่ชั้นล่าง เพื่อหาอะไรทาน เราไปทานกันที่ Pro ซึ่งออกจะน่าผิดหวังนิดๆเพราะเราทานแต่ที่นี่ตั้งแต่อยู่ที่ซานฟรานซิสโก แล้ว แต่ไม่มีที่ไหนที่จะใกล้เท่าที่ Pro แล้วเลยต้องทานที่นี่ ยังไงก็ตามในขณะที่เรากำลังจะทานข้าวเย็นของเราเสร็จ เราก็เจอ จีดราก้อน ที่มาพร้อมกับสมาชิกในครอบครัว วายจีคนอื่นๆซึ่งกำลังนั่งทานอาหารอยู่ข้างๆเรา ผมลืมไปแล้วว่ามีใครบ้าง แต่ครั้งแรกที่ผมเห็นจีดราก้อนผมเกิดอาการตื่นเต้นที่ได้เจอดาราขึ้นมา เค้าให้ออร่าและรัศมีที่แตกไปจากที่เรารู้สึกกับแทยัง จีดราก้อนมีรังสีความเป็นดาราดังออกมาซึ่งมันน่าสนใจมาก ไม่ใช่ในทางที่ไม่ดีนะฮะ มันดูข่มขวัญไปเล็กน้อย แต่เมื่อเค้ามาอยู่ใกล้ๆเราและรู้จักกันมากขึ้นมันก็ทำให้เรารู้สึกสบายมาก ขึ้น

หลังจากที่เราทานกันเสร็จเราก็ขึ้นไปยังของแทยังตามเดิมและรอ กันซักพัก ในช่วงที่รอเราก็คุยกับ Sol เพราะเค้าเป็นคนเดียวที่พูดภาษาอังกฤษได้ เค้าเล่าให้เราฟังว่าชุดที่เค้ากำลังสวมอยู่ใส่สบาย โดยเฉพาะรองเท้าบูท ซึ่งคุณจะรู้ในรายละเอียดมากขึ้นในวีดีโอ

ในระหว่างที่เรากำลังรอลิฟท์อยู่ จีดราก้อนก็ เต้นเพลง wedding dress ออกมาแป๊บนึง ( ดูในวีดีโอนะครับ)

หลัง จากที่เราได้เจอจีดราก้อนบ่อยเข้า ผมก็มาตระหนักว่าที่เอมี่เคยพูดเอาไว้เกี่ยวกับเค้านั้นมันเป็นเรื่องจริง เค้าเป็นอย่างที่เราเห็นเค้าเป็นนั่นแหละ เค้ามีบุคคลิกที่เป็นคนไฮเปอร์เหมือนกับว่าเค้าไม่มีวันที่จะหมดแรง ดูเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากและมีออร่าที่เต็มไปด้วยความหวัง เค้าทำให้ผมนึกถึงเด็กเล็กๆ เราได้จับมือจีดราก้อนด้วย ผมคิดว่าน่าจะเป็นช่วงก่อนที่เค้าจะขึ้นทำการแสดง เราต่างอวยพรให้เค้าโชคดี

เอาเข้าจริงๆแล้วเราต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะทีเดียวเพื่อที่ลงไป ข้างล่าง เพราะลิฟท์นั้นเคลื่อนช้ามากที่สุดและเราก็มีกันหลายคน ในช่วงที่เราต้องเดินลงบันไดผมประหลาดใจมากที่เราจำเป็นต้องเดินผ่านกลุ่ม ของเด็กสาวชาวเกาหลีมากมายที่กำลังนั่งกันอยู่ มันเหมือนกับชั้นเรียนยังไงบอกไม่ถูก ผมคิดเอาเองว่าน่าจะเป็นแฟนๆที่กำลังมารอชมและกำลังฟังข้อควรปฏิบัติกันอยู่


แทยังกำลังแสดงเพลง Just a feeling

มัน ค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียวกับการที่เราได้มาเห็นการทำงานเบื้องหลังแบบนี้ ยองเบก็ยังคงมุ่งมั่นกับมันมากและเค้าก็ชอบที่จะปล่อยมุขหรือพูดจาตลกๆใส่ใน ไมด์ของเค้าแม้ว่าจะอยู่บนเวทีในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการแสดง ก็ตาม

ในระหว่างการซ้อมครั้งแรก ยองเบได้เดินจากที่ยกพื้นสูงด้านหน้าและเดินกลับไปยังเวที ดังนั้นผมและ qui ก็มีโอกาสได้บันทึกวีดีโอและถ่ายภาพอยู่ข้างเวที ในตอนที่เค้าเดินมาเค้า สวัสดี Qui และหันมามองที่ผมและชี้มา ซึ้งผมก็ถ่ายรูปเค้าเอาไว้ได้


แทยังมาทักเราและชี้มาทางผมหลังจากที่แสดงเสร็จ

นอกจากนี้เรายังได้พบ จีดราก้อนและ Shaun ที่กำลังดูการแสดงของยองเบอยู่ มันค่อนข้างน่าตื่นตะลึงมากนะฮะ
เพราะพอถึงช่วงพัก พวกสาวๆก็จ้องมองด้วยสายตาชื่นชม ไปที่จีดราก้อนแบบไม่วางตา

ผมกำลังจะข้ามไปเล่าในช่วง จบการแสดงแล้วนะฮะ เพราะผมเริ่มขี้เกียจแล้วว


แทยังกำลังดูเทปการแสดงของตัวเอง


ผมบอกให้ qui ไปยืนโพสท่าในฉาก จริงๆเราน่าจะเอามาซักแผ่นให้แทยังเซ็นให้เรา 5555


จีดราก้อน แทยัง และ shaun ในฉากเพลง i need a girl

ใน ที่สุดมันก็จบลง ซึ่งตอนนี้น่าจะเป็นเวลาตีสามหรือดึกกว่านั้นอีก ทุกคนเริ่มที่จะออกจากห้องกันแล้ว ในตอนที่ผมจะออกมาผมได้ยินว่า Qui กำลังจับมือกับใครบางคนข้างหลังผม คนคนนั้นเดินผ่านผมไปในช่วงที่ผมก้มเก็บของบางอย่างจากนั้นเค้าก็ยื่นมือมา ทางผมผมก็ยื่นมือไปจับมือนั้น และมองขึ้นไปซึ่งผมต้องใช้เวลาถึง 2-3 วินาทีที่จะนึกได้ว่าเค้าคือ ยองเบ ผมคิดในใจว่า Qui คงจับมือกับแด็นเซอร์ดังนั้นสมองผมเลยทำงานช้าไปหน่อย มันเหมือนกับว่า เฮ้อ มือแด็นเซอร์ที่ฉันจับไปเมื่อกี้มันคือมือของยองเบตั้งหากเล่า



อยู่ด้านนอกกำลังคิดหาทางว่าจะกลับโรงแรมของเรายังไงดี

เรา เดินทางมาที่ชั้นล่างและกำลังยืนอยู่ด้านนอกพยายามที่จะหาวิธีว่าเราจะเดิน ทางกลับโรงแรมเรายังไง ผมคิดว่า ผู้จัดการไม่ก็คนขับรถของยองเบเสนอว่าเค้าสามารถไปส่งเราได้ ซึ่ง Shaun ได้ถามยองเบให้ว่า โอเคไม๊?? ซึ่งเค้าก็ตอบตกลง ดังนั้นเราจึงได้อยู่ในรถกับแทยังและจีดราก้อน ผมกับ Qui นั่งที่ที่นั่งชั้นในสุด จีดราก้อนนั่งข้างหน้าโดยที่ Shaun กับ ยองเบนั่งที่นั่งตอนที่สอง จีดราก้อนเหลือพลังอยู่เพียงนิดเดียว เค้ากำลังจะหมดแรง แต่เค้าก็ยังคงมีความไฮเปอร์อยู่ ดังนั้นเค้าจึงปรบมือและพูดออกมาว่า " ทำดีมากทุกคน " และพูดว่า " ผมไปละนะ" (บางทีคุณอาจจะได้เห็นในวีดีโอ) เรามาถึงที่พักของจีดราก้อนและยองเบ น่าแปลกใจมากที่ในตอนนั้นมีเด็กผู้หญิงสามคนกำลังยินรออยู่ที่ทางเข้าที่จอด รถ จีดราก้อนและยองเบถูกส่งไปที่ปากทางเข้าประตูพอดิบพอดีทำให้ไม่ได้เจอกับ เด็กสาวสามคนนั้น (ซึ่งนี่คงเป็นเหตุผลที่ว่า พวกเค้าไม่ได้รับอนุญาติให้มายืนที่หน้าตึก) 

คนอื่นๆ

ผมกำลังจะรวมเอาวันที่เหลือเข้าไว้ด้วยกันนะครับ เพราะมันง่ายกว่ามาก และ เป็นเพราะผมจำไม่ได้ว่าเหตุการณ์ไหนเกิดขึ้นตอนไหนบ้าง


SE7EN

Keone, Qui, และผม พบว่า เซเว่นนั้น ชอบที่จะร้องเพลงเล่นเป็นช่วงๆ จะร้องบางส่วนของเพลงค่ายวายจีนั่นแหละ ในตอนที่เราอยู่ในห้องกำลังดู ดาร่าและยองเบ ซ้อมเพลง "i need a girl " เค้าก็ร้องเพลงนี้ เค้าร้องได้ดีมากทีเดียว ผมลืมไปว่าทำไมผมไม่ได้บันทึกเทปตอนนี้มาด้วย อาจจะเป็นเพราะผมไม่อยากจะดูหมิ่นเค้าและเราอาจจะไม่ได้รับอนุญาติให้ทำแบบ นั้นก็ได้ ผมยังจำตอนที่เค้าแร๊พในท่อนของจีดราก้อนได้อยู่เลย มันยอดเยี่ยมจริงๆ ยังไงก็ตามแต่ ทุกครั้งที่เซเว่นร้องเพลงเล่น Keone, Qui และผมจะหันมามองหน้ากันแบบในสายตาเต็มเปื่ยมไปด้วยประกายเป็นที่รู้กันว่า กำลังตะลึง 5555 เซเว่นเป็นศิลปินที่เราพูดด้วยมากที่สุด เพราะเค้าอยู่ที่บริษัทแทบจะตลอดเวลา เค้าดูสบายๆและเป็นคนตลกดังนั้นผมเลยรู้สึกสบายๆเวลาได้คุยกับเค้า ผมคงจะสนุกด้วยถ้าได้ใช้เวลาเที่ยวกับเค้าในอเมริกา


Qui กำลังนอนหลับอยู่บนม้านั่งใน studio ผมถ่ายรูปตัวเองและ Shaunที่กำลังซ้อมอยู่
เราใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันในสตูดิโอที่เย็นเชียบนั้น


2NE1

เรื่อง ของสาวๆกลุ่มนี้เหมือนเป็นเรื่องอีกด้านนึงเลยคือ สิ่งที่ดีที่สุดที่เราได้ทำคือ เราแค่ทักทายพวกเธอเท่านั้น ส่วนใหญ่คำทักทายของผมจะไปโดนซีแอลก่อนเสมอ เพราะเธอมักจะเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นผม และจะเป็นคนแรกที่ผมเห็นเสมอเวลาเดินเข้าไป มันดูไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ที่จะอยู่ใน studio B เนื่องจากว่าทีมถ่ายทำ 2ne1 TV อยู่ในนั้นพร้อมทั้งกล้องและ shaun ค่อนข้างเข้มงวดทีเดียวว่าเมื่อไหร่ผมควรจะเข้าไปในห้องหรือเวลาไหนที่ผม ห้ามทำการบันทึกเทป ( Qui ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้ามาเลย จนกระทั่ง เวลาผ่านไปกว่า 3 วัน)


studio B ที่ 2ne1 กำลังใช้งานอยู่ มันมักจะอบอุ่นกว่าเสมอหากพูดถึง studio B
และมันก็มีกลิ่นอายของความเป็นผู้หญิงมากกว่าด้วย สงสัยจะเป็นเพราะ สาวๆ2ne1


ดัง นั้นเมื่อไหร่ที่ มี 2ne1 อยู่ใกล้ๆผมจะรู้สึกเครียด ไม่เหมือนเวลาที่อยู่กับเซเว่นหรือกับยองเบ ที่ผมสามารถผ่อนคลายและทำตัวสบายๆได้ ซึ่งมันค่อนข้างจะเหมือนกับปฏิธานที่ผมตั้งไว้สำหรับทริปนี้ดังนั้นผมจึงไม่ ได้พยายามอยากจะไปพูดคุยกับพวกเธอเพราะผมรู้สึกว่าผมไม่ได้รับอนุญาติให้ทำ แบบนั้น หรือมันก็ไม่คุ้มค่าที่ผมจะทำแบบนั้น มันเลยค่อนข้างกร่อยๆเวลาที่อยู่ในห้องนั้นแต่ไม่ได้คุยกับใครเลย มันอึดอัดนะ 5555 หลังจากที่ผ่านไปช่วงนึงผมก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นแต่ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะ ไปคุยกับพวกเค้า

CL นั้น ทำตัวเป็นหัวหน้าวงและมีออร่าของความเป็นหัวหน้าวงออกมา Minzy มีพลังเหลือเฟือที่จะสนุกสนาน โดยเฉพาะเธอชอบที่จะเต้นอยูตลอดเวลาไม่ก็ทำอะไรส่วนตัวของเธอไป ผมไม่สามารถที่จะพูดอะไรเกี่ยวกับสาวๆได้มากนัก โดยเฉพาะเพราะผมไม่ได้ไปคุยกับพวกเธอเลยไม่สามารถจะตีความได้ แต่ดาร่าทำได้ดีมากในเพลง " I need a girl" เราได้ดู ดาร่าและยองเบในระหว่างที่พวกเค้ากำลังซ้อมเพื่อการถ่ายทำ MV และมันดูดีมากจริงๆเวลามาดูสดๆแบบนี้ (เสียดายที่MV เพลงนี้ไม่ผ่านการพิจารณา น่าเสียดายมาก) อย่างที่ Mari บอกไว้ ดาร่านั้นเต้นได้ดีในท่าเต้นที่ อ่อนโยนแบบนี้ และมันก็เหมาะกับเธอมากกว่า


DAESUNG
ใน ขณะที่ Qui และผม กำลังถ่ายทำ การซ้อมของเซเว่นอยู่ ผมได้ยินใครบางคนเปิดประตูที่อยู่ด้านหลังของผม เค้าทักทายทุกคนเป็นภาษาเกาหลี ผมหันไปมองและไม่ค่อยแน่ใจว่าเค้าเป็นใคร แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นแดซอง เค้าเต็มไปด้วยเหงื่อและมีผ้าขนหนูพาดไว้ที่คอ บางทีเค้าอาจจะเพิ่งออกมาจากยิมก็ได้ หลังจากที่เค้าทักทายเค้าก็ออกไปทันที


T.O.P
ผมได้ เห็น TOP เหมือนกัน ในขณะที่เรากำลังถ่ายการฝึกซ้อมกันอยู่ผมเห็นใครบางคนมาแอบมองที่ตรงประตู (เพราะประตูเป็นกระจกทั้งหมด) เค้ามองไปรอบๆห้องและจากนั้นก็มองมาที่ผมและจากไป วิธีที่เค้ามองไปรอบๆห้องนั้นค่อนข้างน่าประหลาดใจดี มันทำให้ผมนึกถึงเพลง Lollipop ที่ท็อปกำลังลิปซิงค์และมองไปทางซ้ายทีขวาที ก่อนที่เค้าจะร้องคำว่า ไดนาไมค์ ออกมา


Seungri
ผมไม่ได้เจอเค้าเลย

Minzy
มิ นจีเดินออกมาจาก studio B เพื่อทำอะไรบางอย่าง ซึ่งผมจำไม่ได้ว่าอะไร ผมก็กำลังเดินออกมาพอดี ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่าผมออกมาทำไมกัน ในตอนที่เดินออกมามีเสียงแบตโทรศัพท์ Motorolla ของใครซักคนนึงกำลังจะดับเพราะแบตหมด มินจีก็พูดขึ้นมาว่า " hello moto" ผมอยู่ข้างหลังเธอพอดี และพูดตอบไปว่า " hello moto" แต่เลียนเสียงให้เหมือนในโฆษณาเลย เธอก็หัวเราะ ผมบอกกับเธอว่าวันหลังขอถ่ายรูปด้วยนะ ซึ่งเธอก็บอกว่าโอเค แต่ผมก็ไม่เคยขอเธออีกเลยหลังจากนั้นเพราะไม่อยากไปกวนเธอ ดังนั้นผมเลยไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับเธอเลย แต่ว่าผมได้ซื้อหมัด Hulk สีเขียวมาและให้ 2ne1 เซ็นชื่อให้ ( หวังว่ายังจะจำได้นะครับว่า มินจีเต้นกับเจ้านวมสีเขียวใน MV เพลง Fire) โชคร้ายที่ Keone และ Shaun ไม่รู้เอามันไปไว้ไหน ดังนั้นผมจึงไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูอีกแล้ว หวังว่าซักวันมันจะโผล่ออกมาเองอะนะ

Teddy
ผมจะปล่อยให้เค้าเป็นปริศนาต่อไปนะครับ 5555555


YG

เป็น ความลับครับ ถึงแม้ว่าผมจะมีเรื่องเด็ดๆมาเล่าก็ตาม ....พวกเราต่างยืนกันอยู่ในห้องอัดที่ที่ท่านยางกำลังดู MV เพลง "I need a girl " เป็นครั้งแรก (ผมเดาเอานะ) และเค้าก็ตัดสินใจว่าเค้าไม่ชอบมันและพวกเค้าก็ตัดสินใจจะถ่ายทำใหม่ใน อาทิตย์หน้า 5555 เราได้ขอลายเซ็นเค้าเซ็นลงไปในอัลบั้ม solar เวอร์ชั่น deluxe ของเราด้วย


ลายเซ็นของยองเบและของท่านยางในสมุดภาพอัลบั้มsolar ของผม
จริงๆผมจะให้เค้าเซ้นบนกล่องแต่ปากกาไม่ติด บางทีผมน่าจะให้เค้าเซ็นลงบนเสื้อของผมด้วย



เรากำลังนั่งเล่นอยู่ในสตูดิโอของเท็ดดี้ จู่ๆก็มีทีมงานเข้ามาพร้อมกับอัลบั้ม Solar แบบ Deluxe version มาให้เรา
surpriseee ครับ


Taeyang

ยอง เบเป็นคนที่เป็นมิตรและเข้าสังคมเก่งมาก เค้าทำเหมือนกับว่าผมกับเค้าเป็นเพื่อนกันมาได้ซักพักแล้ว ในตอนที่ผมและ Qui กำลังทานข้าวอยู่ที่โรงอาหาร ยองเบทานเสร็จแล้วและเดินมาหาเรา มายืนที่โต๊ะของเราและพูดคุยกับเรา ผมลืมไปแล้วว่าพูดคุยกันเรื่องอะไรบ้างแต่จำได้ว่าคุยกันเรื่อง Chrome Heart มีวันนึงที่ Shaun กำลังทำงานคิดออกแบบท่าเต้นให้กับยองเบ Qui ได้บันทึกเทปเอาไว้ดังนั้น Shaun จึงหยิบกล้องไปเปิดให้พวกแดนเซอร์ดู เราต่างก็มามุงกันเพื่อดูวีดีโอนั้น ตอนที่ผมโค้งตัวลงผมก็รู้สึกมีใครเอาแขนมาพัก ที่หลังผม ผมหันไปมองก็เจอว่าคนนั้นคือยองเบ เค้ากำลังพยายามจะเข้ามามุงดูวีดีโอเต้นนั้นเหมือนกัน 5555 แต่พอ Shaun รู้ว่าคนที่เข้ามามุงมียองเบด้วย shaun ก็ปิด และบอกว่ายังไม่อยากให้ยองเบดู ขอย้ำอีกครั้งครับ เค้าเป็นคนที่เท่มากจริงๆ

ในวันสุดท้ายเราไปทานบาร์บีคิวกับ 7 ดาร่า และทีมแด็นเซอร์ และผู้จัดการ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเราไม่ได้รับอนุญาติให้ลงรูปกลุ่มที่เราถ่ายมาในวันนั้น นะครับ

แล้วนี่ก็เป็นตอนจบของการเขียนที่ยาว ยาว มากของผม ผมหวังมากๆๆๆจริงๆว่าผมจะได้เจอกับกลุ่มคนที่แสนวิเศษที่ วายจีอีก พวกเค้าล้วนเป็นเพื่อนที่ดี ต้องยกความดีความชอบให้กับผู้จัดการที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ขอตะโกนไปถึงยองเบ เซเว่น 2ne1 jae YG Teddy Sol และทุกคนในวายจีแฟมมิลี่และแด็นเซอร์ทุกคน ผมรอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่จะกลับไปที่เกาหลีอีกครั้งในอนาคต ไม่รู้ว่าจะมีคนจะจำเราได้อยู่รึเปล่า?? 55555


PS
ผมพูดถึงเรื่องวีดีโอบ่อยๆ ผมจะปล่อยวีดีโอเกี่ยวกับทริปของเราที่เกาหลีนี้ (จะมี 2ne1 เซเว่น GD และแทยัง อย่างละนิดละน้อย)
ถ้าคุณอยากจะเห็น ตึกใหม่ของวายจี การแสดงที่ Mnet การออกแบบท่าเต้นและการสอนเต้นต่างๆและอีกมากมาย
อย่าลืม add movement lifestyle และ Kanauru เพื่ออัพเดทข้อมูลนะครับ

ริชาร์ด


credit to ALWAYSTAEYANG
Thai Translation by undercover @ VIPP @ choitopthailand

0 comments:

แสดงความคิดเห็น