Flag Counter

free counters

วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

[Trans] สัมภาษณ์ Bigbang จากนิตยสาร With Japan ( Seungri's Part)

V.I

เกิด วันที่ 12 ธันวาคม กรุ๊ปเลือด A เค้ารับหน้าที่ร้องนำในวงเค้าเป็นคนที่มีเสียงที่แหลมคมสามารถเยียวยาผู้คน ได้ ในตอนนี้เค้ากำลังศึกษาอยู่ที่ Central University ในสาขาการละครและการภาพยนตร์ การที่เป็นน้องเล็กที่สุดในวงทำให้เค้ามักจะโดนพี่ๆแกล้งแต่ เค้ายังเป็นเจ้าของบุคคลิกที่รอคอยให้คนมาหลงรัก เค้าเคยผ่านงานเดี่ยวมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การแสดงละครเวที แสดงภาพยนตร์และเคยเป็นพิธีกรในรายการเพลง เค้ามีพรสวรรค์ในหลายๆด้านและการพูดภาษาญี่ปุ่นของเค้าก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และ ดีมากในตอนนี้ เค้าสามารถที่จะพูดสื่อสารกับชาวญี่ปุ่นได้โดยที่ไม่ต้องอาศัยล่ามเลยที เดียว


คำถาม Q&A เกี่ยวกับการออกเดท

1)Q:คุณจะกลายเป็นคนแบบไหนเมื่อคุณตกหลุมรักใครซักคน ??
ผม จะปฏิบัติกับเธอแบบสงบเยือกเย็นครับ (หัวเราะ) เพราะว่าถ้าผมปฏิบัติกับเธอแบบนั้น เธอก็จะรู้สึกประหม่าและจะเอาจริงเอาจังกับความสัมพันธ์ของเรา ใช่ไม๊ละฮะ?? แฟนผมคงต้องพูดว่า " เธอไม่รักฉันแล้วเหรอ??? " จากนั้นผมก็จะตอบเธอไปแบบจริงจังว่า " จริงๆแล้วผมรักคุณนะครับ" (หวเราะ)

2) Q: คุณคิดยังไงกับการเหลือช่องว่างระหว่างคุณกับคนที่คุณชอบเอาไว้บ้าง??
ผม ว่าเราแค่คุยโทรศัพท์ ครั้งนึงตอนเช้าอีกครั้งนึงในตอนดึกก็น่าจะพอแล้วนะครับ ส่วนในระหว่างวันเราก็แค่ส่งใจไปสนับสนุนซึ่งกันและกันก็พอแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมคิดว่า แฟนของผมกำลังส่งใจมาเชียร์ผม ผมก็จะพยายามทำงานอย่างหนัก จากนั้นผมก็จะมั่นใจไปโทรศัพท์บอกเธอว่า ผมได้ทำงานอย่างหนักในวันนี้ มันคงจะดีมากเลยนะฮะ


3) Q: คุณคิดยังไงกับการแต่งงานในตอนนี้??
การ แต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ใช่แนวผมเลยครับ ผมคิดว่าผู้ชายที่มีประสบการณ์มากๆในชีวิตจะสามารถปฎิบัติกับผู้หญิงได้อ่อน โยนมากกว่าและสามารถทำให้พวกเธอมีความสุขได้มากกว่า พวกเค้าจะต้องรู้ว่าจะสามารถมอบสิ่งที่ผู้หญิงต้องการได้อย่างไร หลังจากที่ผมได้สะสมประสบการณ์ในหลายๆด้านแล้ว ผมคิดว่าผมคงอยากที่จะแต่งงานเหมือนกันครับ



*เค้าเชื่อว่าเค้าสามารถที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่เค้าต้องการเมื่อไหร่ก็ได้
* เค้าเรียนภาษาญี่ปุ่นผ่านทางการดูละครญี่ปุ่น

"ผม คิดว่าความมั่นใจนั้นเป็นอาวุธของผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม มันเป็นธรรมชาติอยู่แล้วที่ในตอนเริ่มแรกเราจะไม่สามารถทำมันได้ แต่อย่าไปเศร้าโศกคิดว่าคุณจะไม่สามารถทำมันได้อีกเลยไปตลอดกาล คุณแค่ต้องเชื่อมั่นศรัทธาและบอกกับตัวเองว่า " ไม่เป็นไรนะ ฉันจะต้องทำให้ได้ไม่วันใดก็วันนึง" เราต้องมีความมั่นใจแบบนั้นฮะ

สิ่ง ที่ VI หมายถึงไม่ได้หมายถึงความหยิ่งผยองแต่หมายถึงความเชื่อมั่นศรัทธาที่จะเชื่อ ในตัวเค้าเองว่าสามารถที่จะคว้าความสำเร็จมาไว้ในมือได้

"เพื่อที่ จะเป็นเจ้าของความมั่นใจได้นั้น ผมคิดว่าสำหรับผมแล้วผมต้องทำงานอย่างหนัก ผมได้รับมรดกในการตั้งความคิดแบบนี้มาจากคุณพ่อของผม ตั้งแต่เริ่มแรก คุณพ่อไม่เคยแสดงออกแม้แต่ครั้งเดียวว่าเค้าไม่เชื่อในตัวผมว่าผมจะสามารถ บรรลุเป้าหมายของผมได้ แต่เค้าจะพูดอยู่เสมอว่า "ไม่เป็นไรนะ พ่อจะอยู่ข้างลูกเสมอ เพื่อเป็นการตอบแทนที่พ่อสนับสนุนลูกมาโดยตลอด ขอแค่พยายามและทำงานอย่างหนักก็พอ" เค้ามักจะให้กำลังใจผมเพื่อให้ผมทำฝันให้เป็นจริงด้วยคำพูดแบบนี้เสมอ"

หลัง จากที่เค้ารู้แล้วว่าความฝันของเค้าคืออะไร เค้าก้ก้าวเข้ามาสู่โลกบันเทิงนี้ภายใต้แรงสนับสนุนจากคุณพ่อ ทั้งๆที่ตอนที่เค้าเริ่มเดบิวเค้ามีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงจะต้องต่อสู้กับความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเองมากแค่ไหน

" หลังจากที่ผมเพิ่งเดบิวไป ผมรู้สึกเหนื่อยจนแทบจะหมดแรง เป็นเพราะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นแต่ไม่ว่าผมจะเหนื่อยแค่ไหนผมก็ต้องยิ้ม เมื่ออยู่ต่อหน้ากล้อง ผมเข้าใจชัดเจนนะว่าผมก็มีอารมณ์มีความรู้สึกเหมือนกันแต่การที่จะต้องโกหก ต่อหน้าผู้คน เลยเหรอ?? ผมต้องดื้นรนในเรื่องนี้ และท่านประธานก้มองเห็นและได้สอนผมว่า " คนที่ควบคุมแม้แต่อารมณ์ของตัวเองไม่ได้จะไม่สามารถที่จะสัมผัสใจคนอื่นได้ เช่นกัน" ผมรู้สึกประทับใจกับคำพูดนี้มากและเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนความคิด เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมคิดว่า งานของผมสามารถที่จะเข้าไปสัมผัสใจของคนอื่นได้ ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรอื่นอีกนอกจากตั้งใจทำงานให้หนักเข้าไว้ "

หลังจากที่ความเป็นมืออาชีพเริ่มมีมากขึ้นในตัวเค้า เค้าก็ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ด้วยความมั่นใจ
ในตอนนี้ โดยทั่วไปแล้ว เค้าสามารถที่จะสื่อสารกับชาวญี่ปุ่นด้วยภาษาญี่ปุ่นโดยที่ไม่ต้องอาศัยล่ามแล้ว

" สำหรับคนที่มีความหลงใหลในดนตรี ที่อยู่ในเอเซีย มันมักจะเป็นความฝันเลยก็ว่าได้ในการที่อยากจะมาเดบิวในประเทศญี่ปุ่น ผ่านอุปสรรคหลายประการในที่สุดตอนนี้เราก็เดบิวที่ญี่ปุ่นแล้ว ผมต้องการที่จะพูดภาษาญี่ปุ่นให้ได้คล่องๆเพื่อการตอบคำถาม เราหวังว่าทุกคนจะดีใจเมื่อได้เห็น ผมชอบดูละครญี่ปุ่นมาตั้งแต่เริ่มแรกแล้วละครับ จากนั้นผมก็ใช้การดูละครนี่แหละในการเรียนภาษาญี่ปุ่นให้เป็นธรรมชาติโดยการ เลียนการออกเสียงของคนญี่ปุ่นในละครอะครับ

ความคิดเห็นของเค้าที่ต้องการท้าทายในทุกอย่างเป็นอาวุธอีกอย่างของ VI

"ผม ต้องการที่จะสนุกในการใช้ชีวิตและท้าทายทุกอย่างที่ผมต้องเจอ แน่นอนว่าผมต้องประสบกับความล้มเหลวมากมายแต่ผมก็ยังคงคิดว่าความล้มเหลว เหล่านั้นก็เป็นความสนุกอย่างนึง และมันก็เป็นแบบนี้ด้วยในการทำงาน ผมมักจะท้าทายตัวเองในการที่จะร้องเพลงที่แตกต่างกันไป หรือเต้นต่างออกไป แม้ว่าผมจะล้มเหลว ผมก็จะลองอีกครั้ง อีกครั้ง ในทางปฏิบัติแล้ว เราจะรู้ว่าเราทำอะไรได้ดีก็ต่อเมื่อลงมือทำมันนั่นแหละฮะ ผมว่านี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ

อะไรที่คุณจะต้องทำเพื่อจะได้ทำความฝันให้สำเร็จในอนาคต ??
การ ที่จะให้คนอื่นรู้สึกได้ถึงเสน่ห์ของผมและบุคคลิกของผม การที่จะต้องพูดภาษาญี่ปุ่นให้คล่องนั้นจำเป็นมาก ผมจะต้องมีความสามารถในการใช้ภาษาญี่ปุ่นให้ดีมาครองให้ได้ และเราจะได้สามารถถ่ายทอดตัวตนของเราไปถึงคนอื่นได้ นอกจากนี้ผมคิดว่าชาวญี่ปุ่นชาวเล่นมุขตลกมากจริงๆครับ ดังนั้นผมต้องการให้ผู้ชมของผมหัวเราะอย่างมีความสุขและสามารถมีความสุขไป กับเพลงของเราและโชว์ของเราได้ และผมต้องตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะไม่แพ้พวกพี่ๆด้วย ก็ผมเป็นน้องเล็กนี่ครับ


Source: With Japanese Magazine
Chinese Translation: 叶包子 @Baidu
English Translation: Rice@BIGBANG WORLD
Thai Translation by undercover @ VIPP @ Choitopthailand

0 comments:

แสดงความคิดเห็น