Flag Counter

free counters

วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554

[Trans] สัมภาษณ์ แทยัง จากนิตยสาร GQ Korea ฉบับเดือนเมษายน 2011



GQ:เมื่อผมได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับแทยัง คำที่มักจะพบบ่อยมากๆคือคำว่า "ความจริงใจ"และ"ซื่อสัตย์"นะครับ
YB:มันเป็นคำที่ผมมักจะพูดถึงบ่อยๆครับ

GQ: มันได้เข้าไปควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของคุณไม๊ครับ??
YB: ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ มันเหมือนกับเป็นอะไรที่มีมาอยู่แล้วตั้งแต่เกิด เป็นอะไรที่ไม่ใช่จะเปลี่ยนได้ง่ายๆ
เข้าใจไม๊ฮะ??คือผมไม่ได้พยายามที่จะเป็นแบบนี้ แต่ผมคิดว่า มันคือตัวตนของผมนะ


GQ: มีไม๊ครับที่คุณคิดอยากจะเปลี่ยนบุคคลิกของตัวเอง??
คนบางคนก็แค่ทำตามแรงกระตุ้นที่ได้รับมาในขณะที่คุณจะกังวลและคิดล่วงหน้าในทุกสิ่ง
แต่ว่าผลที่ได้ในหลายๆครั้งก็ออกมาดีตลอด

YB:จริงครับ บอกตามตรงนะครับ ผมรู้สึกอยากจะเปลี่ยนบ้างหลังจากที่ผมทำอัลบั้มเดี่ยวชุดล่าสุด
แต่ก้ไม่ได้คิดนานหรือคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายหรอกครับ มันไม่ใช่ว่า
"เราต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างแล้ว" แต่ความรู้สึกมันจะเป็นทำนองว่า
" อ่า ไม่ว่าเราจะพยายามอะไรลงไปตอนนี้ อย่างน้อยเราก็รู้สึกมั่นใจในส่วนนี้แล้ว"
ผมรู้สึกว่าผมได้รับความสงบในใจไม่ก็ความมั่นใจเพิ่มขึ้นครับ


GQ: ถือว่าเป็นก้าวที่ ดีขึ้นนะครับ??
YB:ครับ ซึ่งช่วงเวลานั้นถือได้เป็นช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับผม มันไม่ใช่แค่การทำงานเดี่ยวเท่านั้นนะครับ
แต่การที่ผมตระหนักได้ว่ามันเป็นการก้าวผ่านความยากลำบากด้วยตัวเองนั้นเป็นการก้าวหน้าอีกขั้นนึงจริงๆ
ผมเคยที่จะต้องรู้สึกต้องบากบั่นกับสิ่งที่เข้ามาและสิ่งที่ต้องทำ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าผมดีขึ้นแล้วครับ


GQ: เมื่อผมได้ดูคุณแสดงบนเวที จะมีความรู้สึก 2 อย่างแว้บขึ้นมา คือ
ศิลปินจะต้องแสดงออกมาหนักแบบนั้นเลยเหรอ?? กับ คุณแสดงออกมาหนักหน่วงมากเกินไป ??
คือ มันดูเป็นโชว์ที่เหนือไปจากการตั้งใจโชว์ธรรมดา แต่คุณแสดงออกเหมือนกับว่าชีวิตของคุณแขวนไว้กับการแสดงนั้น
จริงๆแล้วการดูโชว์แบบนั้นมันให้ความสุขนะครับ แต่มันก็ยากที่จะมีความสุขไปพร้อมกับคุณด้วย

YB: ผมคิดว่าความกดดันมันมีส่วนสำคัญในเรื่องนี้ด้วยนะครับ ผมไม่รู้เหมือนกันนะฮะ
เหมือนกับที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ คือผมใช้ชีวิตแบบนั้น ดังนั้นความคิดนั้นมันจึงกลายมาเป็นกฏให้กับผม
คือผมจะขยันตั้งใจทำในทุกๆสิ่งที่ผมทำ ไม่ก็จะเกินความจำเป็นเล็กๆเสมอฮะ



GQ: ตัวคุณเองก็รู้สึกได้ว่ามันเกินจากความจำเป็นไปด้วยใช่ไม๊ครับ??
YB: ตอนนั้นผมก็ไม่รู้นะครับ แต่ผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันจะเกินความจำเป็นเมื่อผมมองย้อนกลับไป
พูดจริงๆนะครับ ในตอนนี้ผมไม่คิดว่าผมจะสามารถขยันทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบหรือสิ่งที่มันไม่น่าสนใจสำหรับผมได้
อีกต่อไปแล้วละฮะ


GQ: นั่นหมายความว่าคุณปล่อยวางได้นิดหน่อยแล้วรึเปล่าครับ??
YB:ถูกครับ มันเป็นสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาครับ ผมคิดแบบนี้บ่อยมากหลังจากที่ได้ทำงานในอัลบั้มเดี่ยว
ซึ่งมันคงจะต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าผมจะมีอัลบั้มเดี่ยวอีกครั้งเพราะ
กว่าจะออกมาได้แต่ละอัลบั้มนั้นใช้เวลานานมากทีเดียวครับ


GQ: มันคงเป็นปัญหาในทุกๆครั้งที่คุณออกอัลบั้มเดี่ยวเลยไม๊ครับ??
ยกตัวอย่างเช่น คุณคงต้องรื้อแก้เพลงใหม่กว่าครึ่งทั้งๆที่ทำเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว??


YB:มันเป็นสัญญาณบอกว่าผมทำอะไรหลายอย่างมากเกินไปในเวลาเดียวกันครับ
ครั้งนึงผมเคยคิดว่า "จากนี้ไปคงต้องใช้เวลามากขึ้นอีกแน่ๆ"
แต่ถ้าดูจากวิธีที่ผมทำงานในตอนนี้ ผมไม่รู้สึกแบบนั้นอีกต่อไปแล้วนะฮะ
ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างดีขึ้นและผมไม่รู้สึกว่ามันจะต้องใช้เวลานานอีกต่อไปแล้ว
ผมคิดว่าในอัลบั้มต่อไปผมคงไม่รู้สึกแบบที่ผมเคยรู้สึกอีกแล้ว และผมก็รู้สึกถึงความกดดันที่มันน้อยลง
ผมคิดว่าผมคงจะมีความสุขกับการทำเพลงมากขึ้นครับ


GQ: ในขณะที่ การแสดงของ GDTOP ให้ความรู้สึกว่าพวกเค้ากำลังเล่นสนุกบนเวที
จริงๆแล้วพวกคุณอยู่ด้วยกันเกือบจะตลอดเวลา คุณได้รับผลกระทบอะไรจากพวกเค้าบ้างไม๊ครับ??

YB:เราต่างได้รับอิทธิพลจากกันและกันเยอะมากๆในทุกเรื่องเลยครับ
อย่างแรกเลยเป็นเพราะว่าเราอาศัยอยู่ด้วยกัน พวกเค้าจึงเป็นเพื่อนที่ผมมักจะพูดคุยเรื่องดนตรีด้วยบ่อยที่สุด
โดยเฉพาะกับจียง เป็นเพราะเราต่างก็แตกต่างกันไปในเรื่องของนิสัยใจคอดังนั้นเราสามารถที่จะเรียนรู้มากมายจากกันและกัน
และสิ่งที่ผมรู้สึกว่า มันยากที่จะทำเพราะด้วยนิสัยของตัวเองแล้ว จียงก็จะสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นผมจะคิดว่า
" อ่า นี่เป็นสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้จากเค้าได้นะ" แบบนั้นครับ


GQ:เมื่อคุณคิดมากไป คุณก็จะไปจบลงที่คุณจะเอาทุกๆๆความรู้สึกมาคิดมาก
วิเคราะห์แล้ววิเคราะห์อีก และในที่สุดคุณก็จะได้ข้อสรุปออกมา แ
ต่ในขณะเดียวกันคุณก็พลาดโอกาสที่จะไปออกเดท เพระทุกอย่างล้วนมีจำกัดเวลาทั้งนั้นนะครับ

GQ: ตอนนั้นน่าจะผ่านมาสองปีแล้วไม๊ที่เราพูดกันว่า
" งั้นเรามาเจอกันใหม่อีกครั้งหลังจากที่คุณประสบกับเรื่องที่ล่อใจมากกว่านี้อีกหน่อย??"

YB:ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่คิดว่าผมจะทำได้เลย

GQ: ทำไมละครับ??
YB:ผมยังไม่อยากที่จะสรุปในตอนนี้หรอกครับ แต่ผมมีแนวโน้มในการสังเกตดูผู้คนครับ
ดังนั้นมันเมื่อพบใครคนนึงแล้วหนึ่งหรือสองชั่วโมง ผมจะพบว่าตัวเองกำลังวิเคราะห์กับตัวเองว่า
" อ่า เค้าเป็นคนแบบนี้นี่เอง"นอกจากนี้เป็นธรรมดาที่จะต้องมีทั้งสัมพันธภาพที่ดีและสัมพันธภาพที่เลวร้ายระหว่างกัน
ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมไม่ต้องการให้สัมพันธภาพที่เลวร้ายเกิดขึ้นเลยรึเปล่า??
ผมถึงพยายามที่จะไม่สร้างสถานการณ์แบบนั้นขึ้นมาแต่การที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่มั่งคง
และจริงจังมันเป็นเรื่องยากโดยเฉพาะ ความสัมพันธ์ที่โรแมนติกด้วยแล้วก็ยากมากขึ้นอีก
ตอนนี้ผมพบว่าตัวเองหลีกเลี่ยงคนที่ผมไม่ชอบโดยไม่รู้ตัว ผมคิดว่ามันดีกว่าที่จะไม่ไปพบปะด้วย
เพราะถ้าออกไปพบก็จะต้องมารู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี


GQ: ผมสังเกตว่าในการให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้คุณเคยพูดถึงผู้หญิงในสเปคว่าเป็นสาวตะวันตก
ไม่ใช่ชาวเอเซียใช่ไม๊ครับ??

YB:สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผมไม่ได้มีสเปคในหัวเลยครับตอนที่นักข่าวมาถามเรื่องนี้ ผมเคยรู้สึกชอบคนคนนึงมากๆๆ
แต่ผมไม่เคยคิดว่าอะไรคือสเปคหรือจะต้องมีรูปร่างหน้าตายังไง เพราะมันก็จะแตกต่างกันไปในทุกๆครั้ง
คือผมหมายความว่ามันไม่มีเหตุผลหรอกครับเมื่อเรารู้สึกชอบใครซักคน


GQ: คือมันมักจะจู่ๆก็เกิดขึ้นใช่ไม๊ครับ??
YB: ครับ มันกะทันหันและมันก็แล้วแต่เหตุการณ์ด้วย มันเลยยากที่ผมจะอธิบายถึงผู้หญิงในสเปคออกมาได้
ดังนั้น ผมจึงมีคำตอบที่ผมมักจะตอบออกไปในการให้สัมภาษณ์ทั่วๆไป อย่างเช่น คนที่เข้าใจผม อะไรแบบนั้นอะครับ
สิ่งที่เป็นอะไรที่เห็นได้ชัด คนที่ผมสามารถวางใจได้ แต่พอพูดแบบนั้นนักข่าวก็จะถามถึง รูปร่างภายนอกต่อ


GQ: พวกเค้าจะถามว่า เช่นใครบ้าง ใช่ไม๊ครับ??
YB:พวกเค้าถามเรื่องนี้มากเลยครับ "ในหมู่ดาราด้วยกันแล้วจะเป็นใคร??" ผมไม่มีใครอยู่ในหัวเลยจริงๆ
ตั้งแต่ผมเป็นเด็กๆ เวลาที่ดูหนัง หรือตอนที่ผมออกเดินทางท่องเที่ยว ผมมักจะเห็นว่า ผู้หญิงชาวตะวันตกนั้นน่ารักจริงๆ
ผมเลยพูดออกไปแบบนั้น แต่มันไม่ใช่ความรู้สึกแบบที่จะชอบใครซักคนจริงๆหรอกนะครับ


GQ: รูปร่างแบบชาวตะวันตก? หรือหน้าตาแบบชาวตะวันตกครับ?
YB:แค่ความรู้สึกเองครับ ผมคิดว่านะ

GQ: มันไม่ใช่เรื่องของรูปร่างหน้าตา อาจจะเป็นพลังบางอย่างมั้งครับ??
YB:ใช่ครับ

GQ: อะไรคือสิ่งที่ทำให้แทยังกระตือรือร้นมากที่สุดในตอนนี้ครับ??
YB:มันอาจจะเป็นคำตอบที่น่าเบื่อมากนะครับ แต่ผมรู้สึกจริงๆว่า ผมจะรู้สึกกระตือรือร้นมากเวลาที่อยู่ในสตูดิโอครับ
มันเลยเป็นเหตุผลที่ว่าผมมักจะไปอยู่ที่สตูดิโอแม้ว่าจะไม่มีงานทำก็ตามเพราะ
ผมจะรู้สึกมีแรงบันดาลใจเวลาที่เห็นพวกพี่ๆทำงานกันครับ
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมเริ่มทำงานเพลงของตัวเองด้วยเหมือนกัน เมื่อเร็วๆนี้ มีนักกีตาร์กำลังเล่นกีตาร์อยู่ในห้องของพี่เท็ดดี้
และมันทำให้ผมสนใจได้มากเลยครับ ผมคิดว่า" อ่า เราควรทำเพลงออกมาแบบนี้"
ดังนั้นผมจึงมีความคิดที่จะเขียนเพลงที่มีการใช้เสียงของกีตาร์ แบบนั้นแหละครับ


GQ: จริงๆคำตอบนี้เป็นคำตอบที่ดีนะครับแต่ลองคิดถึงอะไรที่อยู่นอกสตูดิโอบ้างไม๊ครับ??
YB:ผมรู้สึกมีแรงบันดาลใจเวลามองดูเด็กที่อายุน้อยๆครับ

GQ: วัยรุ่นเหรอครับ?
YB:ครับ เด็กวัยรุ่น เด็กที่ยังไม่ถูกอะไรแปดเปื้อน

GQ: คุณคิดว่าคุณถูกทำให้แปดเปื้อนไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเหรอครับ??
YB:ผมคิดว่านะครับ

GQ: คุณพูดเอาไว้ว่าปี 2009 เป็นปีที่แสนสาหัสและเป็นปีที่มีอะไรมากมายเปลี่ยนแปลงไป
นี่เป็นสิ่งที่คุณรู้สึกว่าคุณโดนแปดเปื้อนมากๆใช่ไม๊ครับ??

YB: ใช่ครับ ในตอนนั้นผมก็ไม่คิดนะครับ แต่ในตอนนี้เมื่อมองย้อนไป ในตอนนั้นผมแค่เกลียด มัน จริงๆ
ซึ่งผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า "มัน" คืออะไร ผมแค่เกลียดสถานการณ์นั้น และเมื่อเวลาผ่านไป .....
อ่าจริงๆแล้วผมเจอความรู้สึกนั้นในภาพยนตร์ที่ผมดูเมื่อวานนะครับ เรื่อง Black swan


GQ: คุณเคยเจอสถานการณ์แบบในหนังเลยเหรอครับ??
YB:ไม่ครับแต่มันให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

GQ: คุณคิดยังไงกับนักบัลเล่ห์สาวในเรื่องที่ สูบบุหรี่และติดยาเสพติด??
YB:lily เหรอครับ?? จริงๆผมชอบเธอมากที่สุดเลยครับ

GQ: ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่นะครับ พลังแบบนั้น ผมก็พอเข้าใจอยู่ พูดถึงเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยน่าสนใจของคุณ..
แล้วบทบาทในพาโรดี้ Secret Big Bang ละครับ??คุณรับบทเป็นหัวหน้าทีม Tae ใช่ไม๊??
ผมหัวเราะมากเลยนะตอนที่คุณพูดคำว่า "ผมเป็นผู้ชายนะ"

YB:คุณจะเขียนลงไปหรือจะไม่เขียนก็ได้นะครับแต่ที่ผมทำไปเป็นเพราะคนอื่นนะครับ

GQ: เป็นเพราะทุกคนพยายามกันอย่างหนักคุณเลยต้องทำเหรอครับ??
YB:(หัวเราะ)ก็อย่างที่คุณเห็นนะครับ บทของผมเป็นบทเล็กๆเอง ผมมีฉากที่ต้องถ่ายทำน้อยมากด้วย
ผมบอกพวกเค้าตั้งแต่ต้นแล้วว่าผมไม่รู้เรื่องในพาโรดี้นี้เลย และบอกพวกเค้าไปแล้วว่าเราไม่รู้ว่าทำไมเราต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย
และมีสมาชิกในวงคนอื่นคิดแบบนี้เหมือนกัน มันก็เป็นแค่อะไรบางอย่างที่มาจบลงตรงที่ยังไงๆเราก็ต้องทำ
และผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะได้มาออกฉายผ่านทางโทรทัศน์ด้วยนะครับ


GQ: คุณไม่รู้ว่ามันจะออกอากาศทางทีวีเหรอครับ??
YB:ครับ ผมนึกว่ามันจะได้ฉายเฉพาะในคอนเสริต์เท่านั้น จริงๆผมไม่เคยดู secret garden เลยด้วยครับ
พวกเค้าบอกผมว่าบทที่จะได้แสดงเป็นยังไง แล้วผมก็มาเตรียมตัว
จากนั้นพวกเค้าก็มาบอกอีกว่าจะต้องสวมวิกผมด้วย แต่ผมก็บอกไปว่าผมไม่สวมเด็ดขาด
ผมเถียงกับทีมงานอยู่ประมาณ ครึ่งชั่วโมงครับ พวกเค้าจึงบอกว่าถ้าไม่อยากทำก็ตามใจ
แต่พอผมไปถึงที่นั่น และได้เห็นจียงอยู่ในชุดที่เตรียมถ่ายทำ ถ้าผมไม่ทำมันก็จะรู้สึกว่ามันผิดยังไงไม่รู้
ผมเลยปล่อยเลยตามเลยไม่ได้บ่นอะไรออกมาครับ


GQ: ตอนแรกผมคิดว่าบิกแบงคงเลือกเส้นทางที่ง่ายๆในการทำอัลบั้มใหม่นี้ แต่ยิ่งฟังไปมากเท่าไหร่
มันกลับไม่ใช่แบบนั้นเลย ผมคิดว่ามันปราดเปรื่องมากจริงๆ คุณชอบมันไม๊ครับ??

YB:ถ้าถามถึงความพอใจในตัวอัลบั้ม อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มของบิกแบงที่ผมชอบมากที่สุดตั้งแต่ทำมาครับ
เราใช้เวลาทำเพลงในอัลบั้มนี้และความพยายามในการทำอัลบั้มนี้อย่างยาวนาน
เราได้ปรึกษาพูดคุยระหว่างสมาชิกในวง ทุกครั้งที่คุณทุ่มเททำอะไรลงไปซักอย่าง
ไม่ว่าผลที่จะออกมามันจะร้ายหรือดี มันก็ล้วนมีความหมายมากๆๆสำหรับคนทำครับ
ผมรู้สึกว่าอัลบั้มนี้ของบิกแบงให้ความรู้สึกแบบนั้นครับ


GQ: จีดราก้อนเคยพูดเอาไว้ว่า
" ในตอนแรกผมคิดว่าจะต้องทำให้มันเหมาะกับสังคมของเกาหลี แต่ตอนนี้
ผมคิดว่ามันจะต้องเหมาะกับกลุ่มผู้ฟังทั้งโลกให้ได้ " และเค้าก็พูดด้วยว่า เค้าสามารถที่จะทำได้ นะครับ

YB: ก็จียงนี่ครับ ....ผมไม่สามารถทำได้หรอกครับ
ผมจะพูดยังไงดี คือตอนนี้ผมยังพยายามอยู่กับการทำเพลงที่ผมจะสามารถพอใจกับมันได้มากขึ้นอยู่เลยครับ


GQ: คุณมีความรู้สึกว่าถ้าคุณพอใจกับมันแล้วก็กลัวว่าผู้ฟังจะไม่ชอบมันเหมือนที่คุณชอบเหรอครับ??
YB:จริงๆมันก็ไม่ใช่กรณีที่จำเป็นนะครับ แต่ ผมไม่รู้สิครับ คงแบบนั้นนะครับ ผมคิดว่า

GQ: คือตอนนี้คุณยังพยายามที่จะหาสิ่งที่จะสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับความต้องการของตัวเองอยู่ใช่ไม๊ครับ??
YB: ครับ คือ ถ้ามันเป็นสิ่งที่ผมชอบมากกว่านี้ ผมจะมีความรู้สึกว่าผู้คนอาจจะทำใจให้ชอบมันได้ยากมากขึ้นครับ
อย่างน้อยก็ยังทำใจให้ชอบมันไม่ได้ในตอนนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่สังคมเกาหลี จะแสดงตอบรับมา
หรือในระดับสากลจะตอบรับกลับมายังไงนั้น เป็นสิ่งที่ผมไม่รู้จริงๆครับ


GQ: อย่าเอาตัวเองไปกังวลเรื่องแบบนั้นเลยครับ
YB:ผมไม่กังวลอีกแล้วละฮะ

GQ: สิ่งที่ดีที่สุดคือ แค่ลงมือทำไปเลยครับ ไม่มีใครบ่นอะไรหรอกฮะ คุณคือแทยังเชียวนะ ( 5555)
YB:แต่ผมเก็บเอาสิ่งที่จียงพูดมาคิดนะครับ คือ พยายามที่จะปรับให้มันเข้ากับคนได้ไม่ใช่แค่ในเกาหลี
แต่รสนิยมในระดับสากลมันดีมากนะครับ ซึ่งผมก็มีความคิดแบบเดียวกันนี้บ่อยๆตอนที่ผมทำอัลบั้มเดี่ยว
ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นที่จดจำมากเท่าไหร่ในเกาหลี แต่ผมต้องการที่จะแสดงให้คนในประเทศอื่นๆเห็นว่า
"ว้าว!! มีคนนึงในเกาหลีนะที่เค้าทำเพลงแบบนี้" ถ้าจากมุมมองนี้แล้ว
ผมคิดว่าผมกับจียงสามารถสื่อสารกันได้ดีกว่าแต่ก่อนนะครับ


GQ: ระหว่างที่รอการถ่ายทำ ผมเห็นคุณเต้นในช่วงที่ต้องรอนะครับ ผมว่ามันดูดีจริงๆ
เวลาไปเที่ยวคลับคุณจะเป็นยังไงครับ??

YB:แค่เต้นครับ ผมไม่ดื่ม

GQ: คุณเคยปล่อยตัวเองให้สนุกสุดๆไปเลยไม๊??
YB: หลายครั้งมากครับ

GQ: โดยที่ไม่ได้ดื่มเนี้ยนะครับ??
YB:ครับ สิ่งนึงที่ผมอยากจะพูดคือ ผมไม่ต้องใช้แอลกฮอลล์มาช่วยให้ไปถึงจุดนั้นหรอกครับ
แค่เต้นอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว ผมคิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงชอบเต้นมากๆเลยละครับ


GQ: 15 นาทีในการเต้นเอาชนะวิสกี้ 1 ขวด งั้น การร้องเพลงละครับ??
เวลาคุณร้องเพลง คุณได้คิดถึงคนฟังหรือผู้คนบ้างไม๊??

YB: ตอนที่ผมร้องเพลงอยู่คนเดียว ผมจะกลายเป็นตัวเอกในเพลงครับ โดยเฉพาะถ้าเพลงนั้นเป็นเพลงเศร้า

GQ: แล้วถ้าเกิดว่าเพลงมันมีเนื้อหา เช่น " เมื่อวานผมเสพยา มาวันนี้ผมข่มขืนใครบางคนไป และดื่มเหล้าละครับ??"
YB:จริงๆมันก็คล้ายๆแบบนั้นครับ เมื่อผมอยู่คนเดียวผมคิดว่าผมอินเข้าไปในเพลงมาก
โดยเฉพาะตอนที่ผมอาบน้ำ มันเกือบจะเหมือนว่าผมถ่าย MV อยู่เลยละครับ ช่วงเวลานั้นเป็นเวลาที่ผมชอบที่สุด


GQ: จู่ๆผมก็รู้สึกว่ามีความเหงาถาโถมเข้ามาในการสัมภาษณ์ซะแบบนั้นละครับ
คุณคิดยังไงกับการสัมภาษณ์ครั้งนี้ครับ??? ไม่ว่าบรรยากาศจะดีมากซักแค่ไหน
แต่คุณก็ไม่สามารถที่จะจริงใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์หรอกว่าไม๊ครับ
มันเป็นข้อจำกัดตามปกติอยู่แล้วของเครื่องมือในการบันทึกเสียง ที่ไม่สามารถบันทึกความจริงใจลงไปได้ถูกไม๊ครับ??

YB:ถูกครับ ผมคิดว่าโดยรวมแล้ว การสัมภาษณ์ไม่ค่อยเหมาะกับผมหรอกครับ
เหตุผลที่ผมชอบการสัมภาษณ์กับนิตยสารเป็นเพราะว่า แทนที่จะพูดตามคำถามที่ได้วางแผนมาแล้ว
เราสามารถที่จะพูดคุยกันแบบสบายๆๆและมีบทสนทนาในเรื่องที่จริงจังได้
และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ ที่ผมจะสามารถเรียบเรียงสื่อสารกับความคิดของตัวเองได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์
มันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในทุกครั้งที่ทำการสัมภาษณ์หรอกครับ
แต่ผมชอบให้ตัวเองสามารถเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองออกมา อย่างน้อยมากขึ้นแค่นิดนึงก็ยังดีครับ



GQ: คุณเคยมีความคิดที่อยากจะให้คนอื่นมองคุณแค่ในบางแง่มุมไม๊ครับ??
YB: ประมาณ2 ปีที่แล้วนะครับที่ความคิดนั้นเป็นศูนย์กลางความคิดทั้งหมดของผมเลยละครับ

GQ: ในเวลานั้น คุณอยากให้คนมองว่าคุณเป็นคนยังไงครับ??
YB:ภาพลักษณ์ที่คนมองมาที่ผมคือ เป็นคนที่ซื่อสัตย์และมีความประพฤติดี แค่นั้นแหละครับ
ผมคิดว่าผมติดอยู่ในแบบพิมพ์นั้นโดยไม่รู้ตัว ผมจะพยายามที่จะพูดเพื่อให้เข้ากับภาพลักษณ์นั้น
แทนที่ที่พูดในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกจริงๆออกมา เมื่อมองย้อนกลับไป มันก็แค่นั้นแหละครับ
ผมคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าผมจะแสดงออกตัวตนจริงๆของตัวเองออกมา


GQ: คุณเบื่อและเหนื่อยกับภาพนั้นแล้วเหรอครับในตอนนี้??
YB:ครับ ผมทำต่อไปไม่ไหวแล้วละครับ พูดตามตรงว่า ในตอนนั้นผมก็ไม่ได้พยายามให้มันออกมาเป็นแบบนั้น
มันแค่ เกิดขึ้นมาเอง ผมคิดว่าผมแค่ทำไปตามสถานการณ์หนะครับ


GQ: ในบางครั้ง เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่อดีตก็มักจะตามมาหลอกหลอนเสมอ
คุณรู้สึกเสียใจบ้างไม๊ครับ??

YB:นับตั้งแต่ที่ผมตัดสินใจที่จะเป็นนักร้องและมาเป็นศิลปินฝึกหัด ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจในเรื่องใดเลยครับ

GQ: คุณเคยคิดว่าจะเปลี่ยนทรงผมไม๊ครับ??
YB:ผมไม่เคยคิดจินตนาการตัวเองในทรงผมทรงอื่นแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่ตัดทรงนี้มาครับ
และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าผมไม่สามารถเปลี่ยนมันได้ในตอนนี้ครับ


GQ: ทำไมต้องไว้ผมยาวแต่ช่วงตรงกลางด้วยละครับ??
YB:ก็เพราะถ้าข้างๆมีผมยาวออกมาและตรงกลางไม่มีผมมันก็จะแปลกๆนะครับ (55555)

GQ: ในเรื่องของเสียงเพลงแล้ว คุณอยากจะไปไกลถึงไหนครับ??
YB:ผมอยากจะไปให้ถึงท้องฟ้าเลยครับ

GQ: ทำไปเรื่อยๆจน ถึงวันตายเลยไม๊ครับ??
YB: ก็ บางทีมันอาจจะเป็นไปไม่ได้นะครับ แต่....

GQ: เพลงประเภทไหนที่คุณจะร้องเมื่อคุณอายุ 40??
YB:ผมคิดว่าผมก็ยังคงทำเพลงแบบตัวเองนี่แหละครับ

GQ: ตอนนั้น คุณอาจจะเริ่มดื่มเป็นครั้งเป็นคราวบ้างแล้ว??
YB:จริงๆมันรู้สึกไม่ค่อยดีหรอกนะครับเวลาที่ดื่ม

[b]GQ: ผมถูกรบเร้ามาให้พูดเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงด้วยนะครับวันนี้ [/b]
YB: เอาเลยครับ ถามมาได้ครับ

GQ: เอาเป็นว่าถ้าคุณเกิดเจอผู้หญิงที่น่าดึงดูดใจคนนึง เธอมีพลังอย่างที่คุณต้องการ
ถ้าคุณพลาดจากเธอไปในวันนี้ คุณจะไม่สามารถที่จะเจอเธออีกเลย คุณจะทำยังไงครับ??

YB:ผมคิดว่าถ้าเธอเป็นผู้หญิงที่ผมรู้สึกชอบจริงๆ ผมคงไม่อายและมีความมั่นใจที่จะเข้าไปหาเธอครับ

GQ: คุณจะพูดอะไรกับเธอครับ??
YB:ผมคงจะถามว่า " คุณชอบลูกหมาไม๊ฮะ??"

GQ: 55555
YB:เพราะผมเป็นคนรักหมามากเลยฮะ


GQ: งั้นผมขอถามคำถามที่ค่อนข้างธรรมดาๆๆหน่อยละกันนะครับ
ถ้าเกิดคุณต้องใช้เวลาในตอนกลางคืนกับผู้หญิงที่เซ็กซี่มากๆ คุณจะทำอะไรครับ??

YB:ยากจังครับ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะพูดอะไร สอนหน่อยสิฮะ

GQ: อืม งั้น คุณมือความปรารถนาหรือความละโมบอยากในเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากเรื่องเพลงบ้างไม๊ครับ??
ผมอยากจะเห็นด้านมืดของคุณก่อนที่เราจะจบการสัมภาษณ์นี้ อะไรคือสิ่งที่คุณอยากจะครอบครองมากที่สุด
บางทีอาจจะเป็น เครื่องดนตรีเหรอครับ???

YB: ( 5555) ไม่ครับ ผมอยากจะเรียนรู้มันต่างหากฮะ แต่ผมไม่มีความต้องการอยากจะครอบครองมัน
จริงๆมันเป็นสิ่งที่ผมกังวลจนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้เลยนะครับ ตอนนี้ผมทำงานหาเงินได้ และผมก็เพิ่งจะซื้อรถไป
ผมเคยที่จะต้องเก็บเงินเป็นเดือนเพื่อที่จะไปซื้อเสื้อผ้าที่ผมอยากได้ แต่ผมไม่ต้องทำแบบนั้นอีกแล้วละครับ
ซึ่งมันทำให้ผมกังวล


GQ: คุณกังวลในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องจริงๆนะครับเนี่ย
YB:ถ้าเราพูดถึงการครอบครองสิ่งของ สิ่งนึงที่ผมอยากได้มาตลอดตั้งแต่เมื่อตอนเป็นเด็กคือ บ้านที่มีสนามหญ้ครับ
ผมจะเลี้ยงหมาตัวใหญ่ๆที่นั่น หมาพันธ์ Cane Corso ของอิตาเลี่ยน มันจะคล้ายหมา Tosa ของญี่ปุ่นครับ
ตัวเป็นสีดำทั้งหมด ตัวใหญ่ และมีรูปร่างที่เท่มาก


GQ: คำแนะนำอะไรบ้างที่จีดราก้อนแนะนำคุณครับ ??
YB:มันเหมือนกับว่าเค้าจะรู้สึกผิดหวังกับผมมากกว่าครับ
ก่อนหน้านี่เค้ามักจะถามว่า " ทำไมนายเป็นแบบนี้เนี่ย?? " แต่ตอนนี้เค้าจะพูดว่า
" สิ่งนี้ทำให้นายมีความสุขเหรอ??" (55)ผมคิดว่าเค้าคงรู้สึกท้อแท้มากจริงๆ


GQ: เมื่อเร็วๆนี้ สิ่งที่ทำให้เค้าพูดประโยคนั้นกับคุณคือเรื่องอะไรครับ??
YB:สารภาพครับ เราต่างก็เป็นผู้ชาย ดังนั้น พอเราเสร็จงานและไม่มีอะไรให้ทำกันแล้ว
เค้าอยากที่จะออกไปเที่ยว ไปดื่มไปเหล่สาว แต่ผมกลับพูดว่า " ฉันไม่ไปหรอก"
เมื่อมองจากมุมมองของจียงแล้วเค้าคงรู้สึกผิดหวังผมเข้าใจนะครับ
เพราะผมก็อยากจะใช้เวลาอยู่กับเค้า และมั่นใจเลยว่าเค้าก็อยากจะใช้เวลาอยู่กับผม แต่ผมไม่อยากออกไป


GQ: งั้นคุณก็ไม่ไปจริงๆเหรอครับ?? คุณไม่มีความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเหรอครับ
คุณไม่รู้หรอกครับว่าเป็นยังไงจนกว่าจะได้ไปแล้ว

YB:ผมรู้สึกว่าผมรู้ว่าบรรยากาศและความรู้สึกนั้นว่ามันจะเป็นยังไงครับ
ผมเคยสัมผัสความรู้สึกนั้นมาแล้วซึ่งมันไม่น่าสนใจครับ


GQ: เสียงเพลงและการเต้น บางทีคุณคงเคยประสบกับเรื่องที่ทำให้มีความสุขสูงสุดแล้วก็ได้นะครับ
YB:นั่นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดสำหรับผมครับ
ผมถึงขนาดที่คิดว่า ความรักที่มีอยู่บนโลกนี้นั้นยังไม่สามารถสมบูรณ์แบบเท่า
ผมตระหนักในเรื่องนี้ค่อนข้างเร็วนะครับ หลังจากที่ได้พบเจอผู้คนมากมาย สังเกตคนมากมาย
ผมก็ตระหนักว่าความรักที่สมบูรณ์แบบที่ผมจินตนาการเอาไว้นั้นไม่มีอยู่จริง


GQ: บางสิ่งบางอย่าง มันก็น่าความสนใจเพราะว่ามันไม่แน่นอน นะครับ
YB:สิ่งที่ไม่คงทน ไม่ดึงดูดใจผมครับ ผมคิดว่านะ

GQ: งั้น ความสมบูรณ์แบบเท่านั้น ที่จะทำให้คุณสนใจได้??
YB: ครับ

Editor: Jung Woo Sung
ENG Translations by Sylvia@ALWAYSTAEYANG.COM
Thai Translation by undercover @ VIPP @ Choitopthailand


0 comments:

แสดงความคิดเห็น