Flag Counter

free counters

วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

[Trans] สัมภาษณ์ TOP จาก สมุดภาพ Electric love tour



ก่อนอื่นเลย คุณรู้สึกยังไงบ้างกับการทัวร์คอนเสริต์ Electric love tour ที่เพิ่งจบลงไป??
พูดตามตรงคือ ผม รู้สึกประหลาดใจมากๆๆครับ คือผมคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าแฟนๆที่ญี่ปุ่นจะต้องเงียบๆ
ผมจึงรู้สึดีใจมากที่ทุกคนต่างสนุกกับเราเหมือนกับที่แฟนๆชาวเกาหลีสนุก
ผมรู้สึกภูมิใจมากในสิ่งที่เราทำ เมื่อผมเห็นแบบนั้นแล้ว มันเป็นการทัวร์ที่น่าจดจำในทุกๆกรณีเลยฮะ
นอกจากนี้ตอนนี้ผมเริ่มที่จะรู้สึกละโมบขึ้นมาเล็กๆว่าเราจะสามารถแสดงโชว์ที่ญี่ปุ่นมากขึ้นนับจากนี้ไป
ผมคิดว่ายังมีอะไรอีกมากที่เราจะทำในครั้งหน้า

การแสดงของคุณนั้นดูแมนมาก จนแฟนๆที่เป็นผู้ชายที่ญี่ปุ่นนี้ก็ยังชอบเลยนะค่ะ
ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นนะครับ ที่เกาหลีก็มีแฟนๆที่เป็นผู้ชายชอบการแสดงของผมมากเหมือนกัน
มันไม่ใช่ว่าผมตั้งเป้าหมายเอาไว้แบบนั้นนะครับ แต่ สไตล์ในการร้องแร๊พของผมมันเป็นแบบผู้ชายมากๆ
ผมคิดว่าการที่ผมมีบุคคลิกแบบนี้เป็นเพราะ
ผมเริ่มคิดสไตล์การรร้องแร๊พและการออกเสียงในแบบของตัวเองมาตั้งแต่ยังเด็กแล้วครับ

คุณช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสไตล์ของคุณให้ฟังหน่อยได้ไม๊ค่ะ??
ผมคิดว่าผมยับยั้งการเคลื่อนไหวของตัวเองเอาไว้และเน้นไปที่การแร๊พครับ
มันเป็นสไตล์และทฤษฎีในแบบของผมซึ่งผมคิดว่ามันเท่ดี
และที่สำคัญ ผมไม่ชอบที่จะแสดงออกมากเกินไปบนเวที
ผมต้องการที่จะทดลองอะไรใหม่ๆและเพิ่มองค์ประกอบที่แตกต่างลงไปบ้าง
แต่ผมต้องการที่จะแสดงออกในสิ่งเหล่านั้นด้วยการทำนิ่งๆแต่เป็นธรรมชาติมากกว่าที่จะแสดงออกมาแบบโฉ่งฉาง

เราคิดว่านั่นคงเป็นทฤษฎีในการ ทำตัวให้ดูแมนๆในแบบท็อปใช่ไม๊??
อ่าครับ อาจจะนะครับ

งั้น คุณก็เริ่มต้นด้วยการแร๊พในแบบนักเลงๆๆใช่ไม๊??
(พูดเป็นภาษาญี่ปุ่น) ครับผมเริ่มเมื่อตอนอายุได้ 10 ขวบ

เริ่มต้นตอนอายุได้ 10 ขวบ??? (หัวเราะ)
ครับ ผมพยายามที่จะพูดภาษาญี่ปุ่นนะครับ

==========




อ่า 55555 ได้นิดหน่อยใช่ไม๊ค่ะ??? (หัวเราะ) งั้นเริ่มจากอายุ 10 ขวบแล้วยังไงต่อ??
เริ่มที่อายุ 10 ขวบ ผมฟังเพลงที่ค่อนข้างจะมืดมนๆหน่อยครับเป็นการแร๊พในแบบนักเลงๆๆ มาจากนิวยอร์ทในฝั่งคนดำ
ผมมักจะคิดว่าผมจะนำมันมาทำในแบบของผมได้ยังไงคิอซ้ำแล้วซ้ำอีก
เหมือนกับว่าหาทางที่จะทำให้มันเข้ากับจังหวะของผมและบุคคลิกของผม
ผมคิดว่ามันคงจะแปลกๆถ้าผมจะเอาแต่เลียนแบบ วัฒนธรรมhiphop ในแบบอเมริกามาใช้กับตัวเองเพราะผมเป็นคนเกาหลี
ดังนั้นผมต้องการที่จะให้มันมีจิตวิญญาณในแบบตะวันออกด้วย ดังนั้นมันเลยออกมาเป็นแบบที่เห็นในทุกวันนี้แหละครับ

แต่ว่าในตอนที่อายุ 10ขวบตอนนั้นคุณก็ต้องแร๊พในแบบเสียงแหลมๆ ใช่ไม๊??เพราะเสียงคุณยังไม่แตกหนุ่ม
(หัวเราะ) ครับใช่แล้วครับ (หัวเราะ)
แต่โทนเสียงที่ผมใช้แร๊พในตอนนี้ ไม่ใช่โทนเสียงที่ผมมีจริงๆนะครับ
เป็นอันที่ผมทำขึ้นมา ผมจะฝึกซ้อมให้มันมีความหนักมากกว่าที่จะทำให้มันเบาๆ

แต่เสียงของคุณฟังดูดีมากๆเลยนะค่ะตอนที่พูดแบบนี้ นี่เป็นเสียงที่แท้จริงของคุณใช่ไม๊??
ไม่นะครับ ไม่เชิงครับ ผมเพิ่งเริ่มมาเป็นแบบนี้เมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่ผมเริ่มไปแสดงภาพยนตร์ครับ
แต่ตอนนี้ผมกำลังพยายามที่จะเปลี่ยนเสียงของผมอยู่
ผมคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าผมมีโทนเสียงที่ทุกคนสามารถฟังแล้วเข้าใจได้อะครับ

คุณต้องควบคุมตัวเองมากขนาดนั้นเลย??
ก้อ ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นนะครับ ผมคิดว่าทุกอย่างของคนนั้นล้วนถูกสร้างมาจากนิสัยและความเคยชินของเรา
ยกตัวอย่างนะครับ คิดถึงการที่จะต้องอยู่บนเวทีแสดงคอนเสริต์ หรือการแสดงต่อหน้ากล้องในฐานะนักแสดง
มันดูเหมือนว่าสิ่งที่เราจะต้องตั้งเป้าหมายตั้งสมาธิให้กับมัน 100% คือสิ่งที่ ตัวละครตัวนั้นๆที่เราสวมบทนั้นจะทำยังไง
แต่สิ่งที่เราทำออกมาจริงๆแล้วมันคือการแสดงนิสัยและวิถีชีวิตของเราออกมานั้นแหละฮะ
ดังนั้นผมคิดว่าผมต้องการที่จะทำให้ตัวเองเป็นเหมือนสีขาว ตัดเอานิสัยของตัวเองออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่ง อย่างน้อยผมหวังว่าผมจะทำแบบนั้นได้นะครับ

การทำแบบนั้นจะไม่ยิ่งทำให้คุณกังวลมากขึ้นหรอกเหรอ??
ผมกังวลอยู่แล้วครับ ดังนั้นผมถึงอยากจะทำให้สมบูรณ์แบบในไม่ช้านี้
ในตอนนี้มีคนมากมายที่รู้จักผมและคาดหวังในตัวผมพวกเค้าจะคิดว่า
" ท็อปจะต้องทำแบบนั้นแบบนี้ได้อยู่แล้วเพื่อให้ความบันเทิงแก่เรา"
ตอนแรกผมรู้สึกดีใจนะครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันกลายเป็นสิ่งที่จำกัดตัวตนของผมให้แคบลง
ผมรู้สึกประหม่า และเริ่มคิดว่า " ถ้าผมไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจเหมือนกับที่พวกเค้าคาดหวังได้ละ??"
ดังนั้นผมคิดว่าผมต้องทำงานให้หนักขึ้นอีกเพื่อจะได้สมบูรณ์แบบที่สุด
ถ้าผมทำให้มันสมบูรณ์แบบที่สุด ผมก็ทำให้ความคาดหวังที่พวกเค้ามีในตัวผมสำเร็จสมกับที่พวกเค้าตั้งใจ
และผมจะได้ไม่รู้สึกเป็นกังวลอีก

ฉันว่าฉันรู้นะว่าคุณหมายความว่ายังไง
ผมมักจะคิดเรื่องนี้ตลอดเวลาเลยครับ ผมว่าเราต่างก็ใช้ชีวิตในแบบที่เราออกแบบขึ้นมาเองใช่ไม๊ครับ??
ผมต้องการที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าที่ผมเป็นเมื่อวานนี้ อยากจะเป็นคนที่ไม่ต้องอายเมื่อมองย้อนกลับไป
ในบางครั้งผมยังไม่สามารถที่จะลืมในสิ่งที่ผมได้ลงมือทำไปแล้ว และรู้สึกเสียใจ กับมันได้เลยครับ

บางทีคนแบบคุณดูจะเป็นพวกเคร่งครัดมากไปนะค่ะ
ครับแต่ผมว่า มันเป็นสิ่งที่ควรจะเป็นไปแบบนั้นนะครับ

บางครั้งคุณไม่อยากที่จะปล่อยตัวสบายๆบ้างเหรอ ??
เมื่อก่อนผมก็คิดแบบนั้นนะครับ
แต่ ....อืม...อาจจะพูดได้ว่า ตอนนี้ผมใชชีวิตแบบคนที่เสพติดการทำงานครับ
ในช่วงนี้ผมต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่กับงานของผม ดังนั้นผมไม่ต้องการการหยุดพักขนาดนั้น

เป็นความบ้าในเสียงเพลงใช่ไม๊ค่ะ???
(พูดเป็นภาษาญี่ปุ่น) บ้าใน "sigoto"ครับ ( ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง งาน ในที่นี้หมายถึง บ้าทำงาน )

โอ้ คุณพูดภาษาญี่ปุ่น
Sigoto (หัวเราะ)
อืมๆจะพูดยังไงดี ผมคิดว่ามันคงมีเรื่องมากมายย้อนกลับมาหาผมในตอนที่ผมไม่มีการงานต้องรับผิดชอบอะครับ
ในตอนที่ผมทำงานแม้ว่ามันเหนื่อยมากและลำบากมาก บางครั้งผมต้องทำในสิ่งที่ผมไม่ถนัดสิ่งที่ผมบกพร่อง
ดังนั้นมันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าผมไม่ต้องการที่จะหยุดพัก เพราะมันจะเหมือนเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างนึง
และมีเพียงการทำงานเท่านั้นที่จะทำให้ผมรู้สึกพอใจในตัวเอง

แต่คุณย่อมมีข้อบกพร่องนะค่ะเพราะคุณก้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนนึง
ครับ พูดตามตรงนะครับผมจะรู้สึกเหงามากเลยตอนที่อยู่คนเดียว (หัวเราะ)

อ่า ดูๆแล้วคุณไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้นเลย แต่คุณเป็นหนุ่มน้อยขี้เหงาใช่ไม๊?? (หัวเราะ)
ผมคิดว่าเป็นเพราะผมใช้ชีวิตสมบุกสมบันเกินไปอะครับ หลายๆครั้งเลยที่ผมติดกับอยู่ในสถานการณ์ที่สุดๆ
ยกตัวอย่างเช่น ในตอนที่ผมถ่ายทำภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับสงครามเกาหลี และ ฝึกซ้อมคอนเสริต์ electric love tour
ผมยุ่งมากๆๆๆและมีเรื่องมากมายที่กระตุ้นผมอยู่ สมองผมยังหนุ่มอยู่ ดังนั้นผมจึงใช้จิตใจของผมดูดซับทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้
จนผมรู้สึกสับสนในบางตอน บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าผมจะรู้สึกเหงามากเมื่อผมอยู่คนเดียว
ผมรู้สึกมากจริงๆว่าผมโดดเดี่ยวจริงๆ

===================



คุณมักจะทำอะไรเสมอเวลาอยู่คนเดียว??
ส่วนใหญ่เลยผมจะคิดถึงอดีตครับ เช่น " เมื่อวาน มันเป็นมีเรื่องแบบนี้ๆๆเกิดขึ้น "
หรือ " อาทิตย์ที่แล้วมันเป็นมีเรื่องแบบนี้ๆๆ เกิดขึ้น"
ในช่วงเวลาตอนนั้นผมก็จะเรียบเรียงความคิด บางทีก้อจะฟังเพลง แจ๊ซไปด้วย
ดื่มไวน์ซักแก้ว แล้วก็สำรวจรูปร่างของตัวเอง

อ่า เหมือนกับที่มีข่าวลือออกมา....
เปล่าครับ ไม่ใช่ไม่ใช่แบบนั้นครับผมไม่ได้จิตไม่ปกตินะ

ค่ะรู้ค่ะ รู้ (หัวเราะ) ฉันได้ยินมาจาก ซึ่งรี ว่าคุณได้ซื้อ ตุ๊กตา bearbrick แพงๆมาหลายตัวเลย
ครับ อืม...ผมแทบสลบเลยครับตอนที่รู้ว่ามันราคาเท่าไหร่ (หัวเราะ)
ผมชอบอะไรที่เป็นพลาสติกครับ เด็กผู้ชายส่วนใหญ่ชอบอะไรที่เป็นสี่หลี่ยมๆ อย่าง หุ่นยนต์
แต่ผมชอบอะไรที่มีส่วนโค้งส่วนเว้า อย่าง Bear brick

คุณชอบอะไรในพลาสติก ??
ความระเอียดและปราณีตของมันครับ ผมรู้สึกว่ามันสมบูรณ์แบบไม่มีอะไรที่ต้องเพิ่มเติมอีกแล้ว
สำหรับมนุษย์เรา คำว่า สมบูรณ์แบบมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ใช่ไม๊ครับ??
ทุกคนต้องการที่จะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบรวมถึงผมด้วย แต่เราก็เป็นไม่ได้
ดังนั้นบางทีผมรู้สึกว่ามันช่วยให้ผมรู้สึกเต็มเติมแบบอ้อมๆๆในเรื่องนี้เมื่อมองดูเจ้าหมี bearbrick
ผมเป็นเจ้าของพวกมัน เหมือนกับแบบ " ทำไมพวกนายถึงได้สมบูรณ์แบบได้ถึงขนาดนี้ " (หัวเราะ)

เหมือนกับว่า แม้มันจะดูเรียบง่ายแต่มันกลับสมบูรณ์แบบจริงๆ
ครับ มันสวยที่ความเรียบง่ายของมัน เราต่างก็ต้องการที่จะอยู่ในเส้นทางที่เรียบง่าย
แต่ว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับมนุษย์เรา มันจะไม่เป็นที่น่าอับอายเลยแม้ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนก็ตาม

บางทีอาจะเป็นเพราะคุณต้องการที่จะสร้างบุคคลิกของคุณ หรือ ทำงานให้ออกมาสมบูรณ์แบบ ตลอด
ฉันรู้สึกว่าคุณแตกต่างไปในทุกครั้งที่ฉันเจอคุณเลย

ผมคิดว่าผมต้องดูแปลกใหม่ทุกครั้ง ผมไม่อยากจะได้คำนิยามว่า " นี่คือ ท็อป"

เข้าใจค่ะ
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมองมา มันคงน่าเบื่อใช่ไม๊??ถ้าคุณมองเห็นท็อปคนเดิมตลอดเวลา
ดังนั้นผมจึงคิดว่าผมควรจะแสดงออกด้านใหม่ของผมออกมาเสมอ และด้วยเหตุผลนี้ผมจึงต้องปกปิดตัวเองอยู่ตลอดเวลา
บางทีผมควรจะพูดว่า ผมกำลังปกปิดตัวตนที่แท้จริงของผม เพราะมันจะดีกว่าที่จะแยกออกมาจากชีวิตจริงของผม
ผมต้องแสดงบทบาทใหม่เสมอเวลาที่ผมแสดง ดังนั้นผมไม่จำเป็นต้องเน้นในเรื่องบุคคลิกของผมให้ออกมานักก็ได้

แม้ว่าเราจะพูดจำกัดแต่ในเรื่องของดนตรีก็ตาม
มันก็มีความแตกต่างระหว่างตอนที่คุณร้องแร๊พอย่างดุดันกับตอนที่คุณแค่ฮัมไปตามจังหวะเท่านั้นนะค่ะ

ในจุดนั้นผมว่ามันเป็นการแสดงความสุภาพต่อผู้ฟังของเราครับ
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของมืออาชีพที่จะทำให้รู้สึกแปลกใหม่ตลอดเวลา
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของความสามารถของผมมากกว่าเป็นเรื่องที่ว่าสภาพจิตใจของผมคิดว่ามันเป็นไปได้หรือไม่
ผมมักจะนับถือศิลปินที่ทำในสิ่งที่ผมไม่สามารถทำได้อย่างมากและหวังว่าผมจะสามารถเป็นหนึ่งในพวกเค้าได้ บ้าง

ฉันไม่แน่ใจว่า ท็อป ที่แท้จริงนั้นเป็นยังไงกันแน่ .
(พูดภาษาญี่ปุ่น) นั่นเป็นเพราะผมยังไม่ดังขนาดนั้นที่ญี่ปุ่นครับ

==============



ทำไมคุณต้องตอบคำถามนั้นเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วย (หัวเราะ)
ไม่มีอะไรครับ ผมแค่อยากให้คุณสนับสนุนพวกเราให้มากขึ้นครับ (หัวเราะ)

คนที่อยู่รอบๆตัวคุณ พวกเค้าจะพูดถึงท็อปว่าอะไรบ้าง??
สมาชิกในวงมักจะพูดว่าผมนั้นเป็นคนละเอียดอ่อนและเมื่อผมเริ่มต้นทำอะไร ผมจะทำให้มันสุดๆ
ผมไม่ต้องการที่จะโชว์ความอ่อนแอหรือความประหม่าของผมออกมา
แต่ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะ สมาชิกวงบิกแบงเปรียบเสมือนเป็นคนในครอบครัวของผม
ผมรู้ว่ามันจะดีกว่ามากถ้าผมจะไม่ซ่อนตัวตนที่แท้จริงของตัวเองกับพวกเค้า
ผมและสมาชิกในวงรวมถึงทีมงานต่างก็มีความคิดที่เหมือนกันนะครับ ผมคิดว่า

สมาชิกในวงคนอื่นละค่ะเป็นยังไงบ้าง??
ไร้เดียงสามากครับ ผมคิดว่าพวกเค้าไร้เดียงสากันจริงๆ
การที่ไร้เดียงสาและทำตัวเป็นมืออาชีพนั้นเป็นสิ่งในอุดมคติของผมเลย
พวกเค้าเป็นประเภทที่ไม่ก่อปัญหาเพราะเราต่างก็มีบุคคลิกที่แตกต่างกันออกมาอย่างมากครับ
เป็นวงที่ยอดเยี่ยมมาก คุณคิดว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการฟอร์มวงที่ยอดเยี่ยมขนาดนั้นออกมาได้ครับ??

อ่า....ว่าไงนะค่ะ??
ผมคิดว่าพี่คนโตสุดในวง เป็นคนที่สำคัญที่สุดเลยละ (หัวเราะ)

อ่า...นี่คุณคิดจะชมตัวเองเหรอเนี่ย???
(พูดเป็นภาษาญี่ปุ่น) ครับ แต่ว่าผมล้อเล่นนะครับ ล้อเล่น (หัวเราะ)

เป็นเรื่องจริงไม๊ค่ะที่ว่า มีบางเรื่องที่จำเป็นต้องใช้คนที่อายุมากที่สุดในวงทำ ถึงจะสำเร็จ??
เอ??จริงๆแล้ว ผมไม่มีบุคคลิกที่จะเป็นพี่ใครมาตั้งแต่เริ่มแรก
ผมไม่ค่อยชอบการที่จะต้องเป็นผู้นำที่กระตือรือร้นและยืนสอนอยู่ข้างหน้า
ผมเป็นคนที่มักจะคอยมองคนอื่นๆอยู่ด้านหลังมากกว่า
สมาชิกในวงของเราแต่ละคนล้วนมีบุคคลิกที่ชัดเจน และมีสภาพจิตใจที่เป็นอิสระแยกออกจากกัน
ดังนั้นมันจึงมีจุดนึงที่เราต่างคิดเหมือนกันว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเราไม่มามัวกังวลในเรื่องของกันและกันมากเกินไปนัก
ซึ่งในส่วนนี้ผมว่ามันเป็นมืออาชีพมาก ดังนั้นผมจึงต้องการที่จะระวังหลังให้กับพวกเรา
เหมือนกับในระหว่างที่ทำงานก็เหมือนกัน ผมว่าอายุที่ต่างกันแค่ 1-2 ปีนั้นมันไม่ใช่อะไรเลยครับ
อย่างน้องเล็กที่สุดคือ ซึงรี บางทีก็เข้ากับผมได้มากกว่า สมาชิกอีก สามคน หรือบางทีเค้าก็ยังเมินผมก็มีครับ (หัวเราะ)

คุณเข้มงวดกับตัวเองมากเลย คุณเป็นแบบนี้กับคนอื่นไม๊??
ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้เป็นคนที่เคร่งครัดอะไรขนาดนั้นหรอกฮะ
ผมคิดว่าผมยังไม่ค่อยเข้มงวดกับตัวเองเท่าที่ผมอยากให้เป็นเลย ผมคิดว่าผมเป็นคนแปลกๆนะครับ (หัวเราะ)

อย่างน้อยเราก็ได้ยินมาว่าคุณมีกรุ๊ปเลือด B
ซึ่งคุณดูจะมีบุคคลิกเป็นคนในแบบกรุ๊ปเลือดBมากกว่าคนทั่วไปที่มีกรุ๊ปเลือดนี้คนอื่นๆนะ(หัวเราะ)

ผมก้อไม่ค่อยรู้จักตัวเองดีเท่าไหร่หรอกฮะ ผมก็แค่ลองโน่นลองนี่ไปเรื่อยๆ เพราะผมมักจะคิดแตกต่างกันไปตามสถานการณ์

คุณเป็นคนประเภทที่มักจะรับมือกับตัวเองไม่ค่อยได้เหรอ??
ฮะ นั่นเป็นเหตุผลให้กับเรื่องที่ว่าเป็นคนที่ไม่เก่งในเรื่องออกเดทเลย

อ่า ใช่ค่ะ เอ?? ฉันไม่ได้ถามเรื่องนั้นนะ (หัวเราะ)
อ่า 55555555 ครับ ผมผิดเอง

===================



งั้นบางทีคุณอาจจะชอบให้ผู้หญิงเป็นผู้นำ คอยควบคุมคุณ ใช่ไม๊ค่ะ??
ห๋า?? ฟังดูไม่ค่อยเข้าท่านะฮะ (หัวเราะ)
ผมเป็นคนประเภทที่ว่าจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองให้กับคนรักครับ
ดังนั้นผมต้องการที่จะแสดงตัวตนของผมซึ่งไม่เคยมีใครได้รู้จักกับเธอครับ แบบนั้นฟังเป็นไงฮะ??

นี่คุณกำลังพยายามที่จะจบการสัมภาษณ์วันนี้ ด้วยคำพูดเท่ๆใช่ไม๊เนี่ย??
ครับ (หัวเราะ) อืม.....

ใช่ไม๊ค่ะ??
คุณคิดว่าผมปกปิดตัวตนของผมมากเกินไปใช่ไม๊ฮะ?? แล้วก็คอยทำเท่??

อืม...เรื่องแบบนั้นมันโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ค่ะ (หัวเราะ)
มันเป็นสิ่งที่ผมกำลังแนะนำให้ตัวเองทำนะครับ

อ่าค่ะ และมันก็ได้ผลมากๆๆในบางโอกาศ
ถูกครับ ผมคิดว่าคนเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามคำพูดที่เค้าพูด
เพราะเวลาที่คุณพูดบางอย่างออกไป คุณจะต้องยึดติดกับคำพูดนั้น
ดังนั้นผมจะพูดในสิ่งที่ผมคิดและพูดออกมาดังๆและจะปฏิบัติตามสิ่งที่พูดด้วย
เหมือนกับกำลังวาดแผนเอาไว้ในหัว

คุณเป็นแบบนี้รึเปล่าตอนที่คุณอายุยังน้อยกว่านี้??
ผมเป็นคนที่ร้ายกาจกว่านี้มากตอนที่ผมยังเป็นเด็ก แต่จากนี้ไป ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมสดใสและสุขภาพดี
บางทีมันอาจจะเป็นผลกระทบที่มากับดนตรีในแบบที่ผมชอบ
เพลง Hip hop และเพลงในแบบคนดำมีผลกับผมและผมก็เหมือนกับว่า ยับยั้งตัวเองเอาไว้
ผมใช้เวลามากมายหมดไปกับการนั่งที่โต๊ะและเขียนเนื้อเพลงหรือไม่ก็คิดไปเรื่อยๆ

แต่ตอนที่เราอายุยังน้อยก็มักจะทำอะไรแบบนั้นนะค่ะ บางเรื่องมันก็ดูโง่มากเลย
ครับ ที่ผมเล่าเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะ เรื่องพวกนั้นมันล้วนเป็นอดีตไปหมดแล้วครับ
แต่ผมก็ยังซนบ้างในบางครั้ง เมื่อตอนที่ผมเป็นเด็กบางครั้งผมทำอะไรที่โง่มากๆๆลงไป
ทั้งเห็นแก่ตัวและอ่อนไหว ตอนนี้ผมดีมากขึ้นแล้วเพราะผมโตขึ้นและผมก็คิดถึงตัวเองและงานของผมครับ

=====================



งานที่ทำน่าสนใจเลยใช่ไม๊ค่ะ ??
ครับ ผมสนุกกับมันมากเลยทีเดียว สิ่งที่ผมพอจะพูดได้คือ มันเข้ามาทำให้ชีวิตของผมสมบูรณ์
มันไม่ใช่เรื่องการเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันน่าสนใจหรือทำให้ผมมีความสุข
แต่ ผมแค่ทำงานอย่างหนัก และทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่มาอยู่ตรงหน้า
พูดตามตรงนะครับ ผมรู้สึกดีใจมากที่ผู้คนเริ่มสนใจในตัวของบิกแบง
เพราะ งานในด้านการแสดงของผมทำให้พวกเค้าเห็นด้านใหม่ๆของผมครับ

ก้าวต่อไปของบิกแบงคืออะไรค่ะ??
ผมไม่ใช่คนประเภทที่จะคิดถึงเรื่องอนาคตอะครับ แต่มีความคิดนึงจู่ๆก็เด้งขึ้นมาตอนที่ผมทำสมาธิเมื่อ 3 วันก่อน
คือ ถ้าเรามองแม้แต่กระทั่งในระดับสากลแล้ว อายุของวงบอยแบรนด์นั้นมากสุดก็แค่ 5 ปี
แต่บางทีบิกแบงอาจจะทำได้ถึง 20 ปี 30 ปี หรือเราอาจจะจบที่ 5 ปีก็เป็นได้
ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เราต้องการที่จะเป็นกลุ่มนักดนตรีที่ยอดเยี่ยม
ที่สามารถทำให้ในวันนึงเมื่อคนพูดคุยกันเรื่องดนตรี จะพูดว่า " เมื่อก่อนนะ ในช่วงนั้น เป็นยุคของเพลงในแบบบิกแบงเลยละ "
เราต้องการให้ตัวเราและเพลงของเราเป็นความทรงจำที่ดีให้กับผู้คนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหนก้อตาม

แล้วจุดมุ่งหมายสำหรับตัวเองละค่ะ??
ผมต้องการให้มีคำว่า " ปีศาจ" เพิ่มเข้ามาในชื่อของผมครับ
ในฐานะคนคนนึงและในฐานะศิลปินด้วย คือ ผมอยากให้คนทุกคนคิดว่าผมเป็นอะไรที่เหนือกว่าความปกติ
จนพวกเค้าต้องหันมาสนใจผม ผมฝันว่าตัวเองจะเป็นแบบนั้นและฝันว่าบิกแบงจะเป็นแบบนั้นด้วย

จะว่าไปตอนนี้คุณก็ดู เหนือกว่าความปกติ แล้วนะค่ะ
นี่คุณกำลังจะชมผมเพราะคำถามนี้เป็นคำถามสุดท้ายแล้วใช่ไม๊??

อ่า ถูกค่ะ นี่เป็นคำถามสุดท้ายแล้ว (หัวเราะ)
โอเคครับ ขอบคุณสำหรับคำชมครับ (หัวเราะ) ผมจะทำให้ดีที่สุดที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเดิม แบบนี้ตลอดไปครับ

Scans: Tisya @ www.bigbangupdates.com
Japanese to Korean translation: DCTOP
Korean to English translation: HuisuYoon@21BANGS.com
Thai Translation by undercover @ VIPP @ Choitopthailand


0 comments:

แสดงความคิดเห็น